วันศุกร์, กุมภาพันธ์ 7, 2025
หน้าแรกHighlight“เทพไท”เปรียบเทียบ 5 ข้อฝากไว้ให้คิด ถามรัฐ“ตัดไฟเมียนมาได้-คุ้มเสียหรือไม่”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เทพไท”เปรียบเทียบ 5 ข้อฝากไว้ให้คิด ถามรัฐ“ตัดไฟเมียนมาได้-คุ้มเสียหรือไม่”

“เทพไท”ถาม “ตัดไฟพม่าได้-คุ้มเสียหรือไม่? ชี้ผลกระทบ 5 ข้อ ฝากไว้ให้คิด

เมื่อวันที่ 7 ก.พ.นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.ประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า

ตัดไฟพม่า:ได้-คุ้มเสียหรือไม่?

หลังจากรัฐบาลมีมาตรการตัดไฟฟ้าที่ส่งไปยังประเทศเมียนมา ทำให้หลายฝ่ายเฝ้ามองว่า จะประสบความสำเร็จในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้หรือไม่ แม้แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่ไปดูสถานการณ์ด้วยตนเอง

ผมในฐานะผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง ได้เฝ้าดูผลที่เกิดขึ้นหลังจากการตัดไฟส่งไปประเทศเมียนมาแล้ว เห็นว่ามีผลอยู่บ้าง แต่ยังไม่เห็นผลที่ชัดเจน จึงเห็นว่ามาตรการตัดไฟของรัฐบาลครั้งนี้ แม้จะมีประโยชน์บ้าง แต่เมื่อชั่งน้ำหนักแล้ว น่าจะเกิดผลเสียมากกว่า ซึ่งพอจะแยกผลได้กับผลเสีย คือ

สำหรับผลได้ มีอยู่5ข้อ ดังนี้

1.ได้ภาพทางการเมือง ว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังกับการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

2.ได้ภาพความร่วมมือกับรัฐจีน ที่ส่งระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ มาปักหลักบัญชาการอยู่ที่เมืองไทยหลายวัน ไปดูสถานการณ์ชายแดนที่แม่สอดด้วย

3.ได้ผลทางจิตวิทยา ทำให้ผู้ถูกคุกคามจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีความสบายใจขึ้น ไม่ต้องหวาดระแวงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก

4.ได้มีประเด็นให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำไปคุยกับรัฐบาลจีน ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศจีน

5.ได้รับคำชมจากนายสีจิ้นผิง และได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย ที่ตัดไฟเพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ส่วนผลเสียที่ได้รับ มีอยู่5ข้อ ดังนี้

1.เกิดความเสียหายทางธุรกิจ และเศรษฐกิจการค้าชายแดน ระหว่างไทยกับเมียนมา

2.ทำให้ประชาชนผู้ไม่มีส่วนได้เสีย หรือเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้รับความเดือดร้อนในการใช้ชีวิตประจำวัน บ้านอยู่อาศัยไม่มีไฟฟ้าใช้

3.หน่วยงานราชการของเมียนมา และโรงพยาบาล มีผลกระทบต่อผู้ป่วย ห้องผ่าตัด ห้องICU

4.รัฐบาลสูญเสียรายได้ปีละ600ล้านบาท ตามข้อมูลของ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

5.รัฐบาลเสี่ยงถูกบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นคู่สัญญา และเป็นบุคคลภายนอก ไม่ได้ทำผิดสัญญา เมื่อถูกตัดกระแสไฟฟ้าย่อมกระทบต่อธุรกิจ ซึ่งอาจจะมีการฟ้องร้องเรียกค่าโง่จากรัฐบาลได้

ถ้าถามว่าการที่รัฐบาลมีมาตรการตัดไฟครั้งนี้ มีผลต่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ ก็ต้องยอมรับความจริงว่า มีผลบ้างแต่ไม่มากนัก เมื่อชั่งน้ำหนักระหว่างผลได้กับผลเสียแล้ว น่าจะมีผลเสียมากกว่าผลได้ ซึ่งรัฐบาลจะต้องตัดสินใจว่า การแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากการตัดไฟฟ้าจะหมดไปจริงหรือไม่

ตอนนี้หลังจากตัดไฟไปแล้ว2วัน ยังมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อาละวาดอยู่ แม้แต่ผมก็ยังมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรเข้ามาอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงใดๆเลย การตัดไฟน่าจะเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด หรือที่เรียกว่าเกาไม่ถูกที่คัน เพราะต้นเหตุที่แท้จริง น่าจะมาจากการใช้อินเตอร์เน็ตสัญญาณโทรศัพท์ ที่โทรมาหลอกเหยื่อ จึงควรจะตัดสัญญาณโทรศัพท์ ก่อนที่จะตัดกระแสไฟฟ้า

ดังนั้นรัฐบาลควรจะใช้มาตรการอื่นเพิ่มเติม ในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดมากกว่านี้ การแก้ปัญหาควรโฟกัสไปยังแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์โดยตรง เพื่อไม่ให้กระทบกับความเดือดร้อนของประชาชน และสร้างความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ

ฝากไว้ให้คิดครับ

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img