‘คอลเซ็นเตอร์-ยา-อาชญากรรมข้ามชาติ’ เป็น‘ปัญหาความมั่นคง’-ส่งผลกระทบแรง

“……การจัดประชุมร่วม 3 ฝ่าย ระหว่างไทย จีน และเมียนมา รวมทั้งการจัดตั้งหน่วยงานร่วม 3 ชาติ ซึ่งอาจผนวกรวมลาว และกัมพูชา มาพร้อมด้วย สำหรับจัดการกับปัญหาเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กระจายอยู่ในภูมิภาคอย่างเด็ดขาดนั้น อาจถือเป็นความจำเป็นที่ขาดไม่ได้ ทั้งนี้มิใช่การปราบปรามเฉพาะเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่เพื่อให้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และปัญหาเครือข่ายการค้ายาเสพติดในภูมิภาค คลี่คลายลงได้สำเร็จในที่สุดสำหรับอนาคตอันใกล้จากนี้ไป …”

@@@…….สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่าน พบกันทุกวันเสาร์กับคอลัมน์ “Military Key” ทางเว็บไซต์ https:// thekey.news ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 8 ก.พ.68 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2568 ณ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประเด็นการตัดไฟในพื้นที่ชายแดนไทย – เมียนมา เพื่อสกัดการดำเนินการของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กฟภ., พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม, พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม  และ นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช. เข้าร่วมประชุมฯ

@@@…….ภายหลังการประชุม สมช.ได้รวบรวมข้อมูลทุกฝ่ายทุกส่วนแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ มีประชาชนทั้งหมดที่ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก และเป็นคดีความอยู่มากกว่า 557,500 คดี รวมเป็นความเสียหายมากกว่า 86,000 ล้านบาท รวมทั้งแต่ละวัน มีความเสียหาย 80 ล้านบาท เกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการสรุปชัดเจนจากหน่วยงานด้านการข่าวที่เกี่ยวข้องว่า เป็นประเด็นความมั่นคงที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อพี่น้องประชาชน และทั่วโลก ดังนั้น จึงมีมติให้ตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ตัดน้ำมัน และยกเลิกหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อตัดบัญชีม้า ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 2568 เป็นต้นมา ซึ่งถือเป็นมาตรการระยะสั้นขั้นต้นเท่านั้น โดยกระทรวงการต่างประเทศ จะแจ้งให้รัฐบาลเมียนมารับทราบ ให้แจ้งสถานสถานพยาบาลให้รับรู้ และเตรียมตัว โดยจะเป็นการตัดทั้ง 5 จุดตามที่ ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกี่ยวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งนั้น ซึ่งไทยถือว่าเรื่องนี้เป็นความทุกข์ของชาติ และประชาชนที่เผชิญอยู่ ทั้งนี้ จะได้มีมาตรการระยะต่อไปเพื่อจัดการกับเครือข่ายจีนเทา และไทยเทา ที่ดำเนินงานอยู่ในประเทศไทยอย่างเด็ดขาดต่อไป 

@@@…….จนถึงปัจจุบัน สำนักข่าวท้องถิ่นเมียนมา รายงานว่า ประชาชนชาวเมียนมาภายในเมืองท่าขี้เหล็ก ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่สายของไทย ได้ทยอยออกมาต่อแถวรอเติมน้ํามันกันตั้งแต่เช้า หลังไทยงดจําหน่ายให้ โดยไทยได้ดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญานอินเทอร์เน็ต และได้งดจําหน่ายน้ํามันให้กับประเทศเมียนมาอย่างเป็นทางการแล้ว ทั้งนี้ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐของเมียนมา ได้ออกเตือนว่า ทางการจะดําเนินมาตรการจัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่พบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ และการฉ้อโกงทางออนไลน์อย่างเข้มงวด รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และอาชญากรรมอื่น ๆ เนื่องจากการพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย และการฉ้อโกงทางออนไลน์ได้ก่อให้เกิดปัญหาภายในเมียนมามาพร้อมด้วยเช่นกัน รัฐบาลจึงต้องดําเนินการตามมาตรการเข้มงวด รวมทั้งการปราบปรามทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจังร่วมกันกับจีน ไทย ลาว และกัมพูชา กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลข่าวสารการข่าวกรองของไทย และบัญชีเป้าหมายจีนเทา ไทยเทาที่ได้รับ และแลกเปลี่ยนข้อมูลอาญากรรมข้ามชาติกับจีน โดย ผช.รมต.ของจีน ได้เข้าพบหารือกับ นายภูมิธรรมฯ รมว.กลาโหม ของไทย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 

@@@…….อย่างไรก็ตาม หลังจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม หารือกับ นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ระบุว่า จีนได้ขอให้ไทยช่วยตัดเส้นทางลำเลียง รวมทั้งซีลชายแดน เพื่อสกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด และอาญากรรมข้ามชาติ ซึ่งการตัดสินใจเรื่องนี้ ฝ่ายความมั่นคง มองว่าจะต้องเป็นความเห็นร่วมกันในฐานะที่เป็นปัญหาร่วมกัน และต้องเคารพอธิปไตยของประเทศไทยด้วย ซึ่งจีนก็ตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนั้น ในบางกรณี ไทยได้ดำเนินมาตรการในลักษณะนี้ไปก่อนแล้ว และจีนได้ขอบคุณ และชื่นชมไทย

@@@…….ทั้งนี้ ฝ่ายความมั่นคง เชื่อมั่นว่า การจัดประชุมร่วม 3 ฝ่าย ระหว่างไทย จีน และเมียนมา รวมทั้งการจัดตั้งหน่วยงานร่วม 3 ชาติ ซึ่งอาจผนวกรวมลาว และกัมพูชา มาพร้อมด้วย สำหรับจัดการกับปัญหาเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กระจายอยู่ในภูมิภาคอย่างเด็ดขาดนั้น อาจถือเป็นความจำเป็นที่ขาดไม่ได้ ทั้งนี้มิใช่การปราบปรามเฉพาะเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่เพื่อให้ปัญหาอาญากรรมข้ามชาติ และปัญหาเครือข่ายการค้ายาเสพติดในภูมิภาค คลี่คลายลงได้สำเร็จในที่สุดสำหรับอนาคตอันใกล้จากนี้ไป 

@@@…….ที่อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ …..กองทัพบกร่วมกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา, คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, กระทรวงมหาดไทย โดย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, กระทรวงวัฒนธรรม โดย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การกีฬาแห่งประเทศไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง รวมทั้งภาคเอกชนและส่วนราชการต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดงานมหัศจรรย์วันมวยไทย ดังไกลสู่ชาวโลก ประจำปี 2568 “Amazing MuayThai World Festival 2025” ระหว่างวันที่ 5-6 ก.พ.68 ณ อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

@@@……นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมฯโดยได้วางพานพุ่มดอกไม้สดถวายเครื่องราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ บูรพกษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์, ถวายราชสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระเจ้าเสือ และถวายราชสักการะพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนร่วมชมการแสดงชุด “รากเหง้าภูมิปัญญามวยไทยเกรียงไกรสู่ชาวโลก” นำเสนอโดยกำลังพลของกองทัพบก ได้แก่ นักเรียนนายสิบทหารบก โรงเรียนนายสิบทหารบก, ศูนย์การกำลังสำรอง และศูนย์การทหารราบ รวมกว่า 2,000 นาย ประกอบด้วย พิธีย้อนประวัติศาสตร์รากเหง้าสู่ความยิ่งใหญ่มวยไทยของบรรพบุรุษ, การแปรรูปขบวนทหารเป็นตัวเลขไทย 323 ปี และการแสดงผลสัมฤทธิ์ของกีฬามวยไทยไปสู่ความเป็นสากล ตลอดจนการแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทยและการรำไหว้ครู ประกอบแสง สี เสียง และการจุดพลุเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา

@@@…….สำหรับการจัดงานมหัศจรรย์วันมวยไทย ดังไกลสู่ชาวโลกในครั้งนี้ นับเป็นวาระโอกาสดีที่กองทัพบกได้ร่วมเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (สมเด็จพระเจ้าเสือ) องค์พระบิดามวยไทย ในโอกาสครบรอบ 323 ปีแห่งวันขึ้นครองราชย์ ในวันที่ 6 ก.พ.68 และเพื่อส่งเสริมให้มวยไทยเป็นกีฬาประจำชาติและมรดกของชาติไทย รวมทั้งเพื่อแสดงให้เห็นถึงรากเหง้าภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยในอดีต ที่ได้ใช้ศิลปะการต่อสู้ระยะประชิดโดยใช้ร่างกายเป็นอาวุธ ซึ่งสามารถเสริมการรบในศึกสงครามต่างๆ ดำรงเอกราชของชาติไทยมาจวบจนทุกวันนี้ ผ่านการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ได้แก่ การจัดนิทรรศการประวัติศาสตร์มวยไทย, กิจกรรมส่งเสริมอุตสาหกรรมมวยไทย, การแข่งขันชกมวยไทย และการแสดงพลังแห่งความสามัคคีของกำลังพลกองทัพบกในวันนี้ ตลอดจนเพื่อเป็นการผลักดัน “Soft power” มวยไทย สู่สายตาของพี่น้องชาวไทยและต่างชาติ ร่วมสนับสนุนนโยบายขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจใหม่ของรัฐบาลอีกทางหนึ่งด้วย

@@@…….ตรวจเยี่ยม….พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมการฝึกปฏิบัติการร่วมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ประจำปี 2568 (กฝร.พตท.68) ณ พื้นที่ฝึกจังหวัดลพบุรี ในขั้นการฝึกขั้นพื้นฐาน (Basic Training) ของนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 3 และการฝึกแลกเปลี่ยน (CTX) ในสถานีการต่อต้านการก่อการร้ายของกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 11 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์, สถานีการรบร่วมกับยานเกราะในสิ่งปลูกสร้างของกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 3 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1, สถานีการเคลื่อนที่ในสิ่งปลูกสร้างของ กองพันทหารราบที่ 1กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ เป็นต้น

@@@…….จากนั้นรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เข้าตรวจเยี่ยมสถานีฝึก CTX ในด้านกิจการพลเรือน ณ โรงเรียนสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ และเดินทางไปยังกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ เพื่อตรวจเยี่ยมสถานีฝึก CTX ด้านสารสนเทศก่อนเดินทางกลับ การฝึกครั้งนี้ได้รับการบูรณาการร่วมจากหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่เป็นอย่างดี ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการฝึกปฏิบัติการร่วมพลเรือน ตำรวจ ทหาร ประจำปี 2568 ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพและเสริมสร้างความพร้อมให้กับกำลังพลทุกภาคส่วน เพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจต่อต้านภัยคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตร่วมกัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

@@@……กองบัญชาการกองทัพไทย โดยกรมแผนที่ทหาร มุ่งมั่นเสริมสร้างศักยภาพด้านการบินของกองทัพ ด้วยการบรรจุบุคคลพลเรือนที่สำเร็จการศึกษาด้านการบินและผ่านการรับรองจากสำนักงานการบินพลเรือนฯ เข้ารับราชการในตำแหน่งนักบินสังกัด กองบินภาพถ่ายทางอากาศ กรมแผนที่ทหาร จำนวน 2 นาย  ได้แก่ 1.ร้อยตรี ยศนันท์ เอมะสุวรรณ อายุ 26 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และสำเร็จการศึกษาด้านการบินจาก Asia Aviation Academy (AAA/AAT) จังหวัดชุมพร 2.นางสาว นันทิชา สุภาชัย อายุ 29 ปี (นักบินหญิงคนแรกของ บก.ทท.) จบการศึกษาปริญญาตรีด้านสถาปัตยกรรม จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และสำเร็จการศึกษาด้านการบินจากบางกอกแอร์ เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ จังหวัดสุโขทัย

@@@……โดยนักบินทั้งสองนายมีคุณวุฒิทางด้านการบินระดับสูง พร้อมใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ (CPL) และหลักสูตรเฉพาะทางที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติภารกิจในกองทัพ เพื่อเสริมทักษะยุทธวิธี สู่ภารกิจเพื่อชาติ ซึ่งนักบินทั้งสองนายจะเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกบินทางยุทธวิธีเครื่องบินปีกติดลำตัว โดยใช้ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 2567 – 28 ก.พ. 2568 มีเนื้อหาการฝึกฯ ครอบคลุมทั้งภาควิชาการ ภาคอากาศ และการฝึกการดำรงชีพในป่า เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจด้านการบินอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ กองบัญชาการกองทัพไทย มุ่งมั่นในการพัฒนากำลังพลคุณภาพ ด้วยการบรรจุนักบินพลเรือนเข้ารับราชการเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางในการพัฒนาบุคลากรทางการบินของกองทัพไทย โดยมุ่งมั่นคัดสรรและพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพสูง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางอากาศ สนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคง พร้อมดำรงความช่วยเหลือแก่ประชาชน เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติต่อไป

@@@……กองทัพเรือ …..พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือเยี่ยมชมโรงเรียนนายเรือสหรัฐอเมริกา ณ เมือง Annapolis มลรัฐ Maryland ในโอกาสเดินทางเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการในฐานะแขกของผู้บัญชาการทหารเรือสหรัฐฯ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือทั้งสอง โดยมีการพบปะหารือข้อราชการกับ พลเรือโทหญิง Yvette M Davids ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือสหรัฐฯ การทำพิธีวางพวงหรีดเกียรติยศให้กับศพของ John Paul Jones ซึ่งเป็นเสมือนบิดาของกองทัพเรือสหรัฐฯ ณ ชั้นใต้โบสต์ในโรงเรียนฯ การเยี่ยมชมห้องเรียน ห้องทำงานวิจัย ห้องนอน โรงอาหาร และภูมิทัศน์ภายในโรงเรียน รวมทั้งการเยี่ยมนักเรียนนายเรือไทยที่กำลังศึกษาอยู่จำนวน 3 นาย

@@@……สำหรับหลักสูตรนักเรียนนายเรือระดับปริญญาตรี ระยะเวลา 4 ปี ของสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนกับนักเรียนนายเรือไทย โดยเริ่มมีนักเรียนนายเรือสำเร็จการศึกษาคนแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 ปัจจุบันมีผู้สำเร็จการศึกษาและรับราชการในกองทัพเรือไทยแล้ว 17 นาย ทั้งนี้การรับนักเรียนนายเรือไทยเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนนายเรือสหรัฐฯ นั้น จะขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันสอบคัดเลือกภาควิชาการ และนโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสหรัฐฯ โดยปกติจะตอบรับห้วงระยะเวลา 4 ปี จะมี 1 นายเท่านั้น อย่างไรก็ตามใน 4 ปีที่ผ่านมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐฯ มีการพัฒนาที่ดีขึ้น ปัจจุบันจึงมีนักเรียนนายเรือเข้าศึกษาอยู่จำนวนถึง 3 นาย พร้อมกัน 

@@@……ในโอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารเรือได้แสดงความยินดีกับนักเรียนนายเรือปุญระพี ประกิต ที่ได้รับการคัดเลือกให้ทำหน้าที่นักเรียนปกครองในตำแหน่งผู้บังคับกองร้อยที่ 15 กรมนักเรียนนายเรือสหรัฐฯ (15th company commander of the brigade of midshipmen) ทั้งนี้ การได้รับการคัดเลือกให้ทำหน้าที่นักเรียนปกครองนอกจากจำเป็นต้องมีผลการเรียนยอดเยี่ยม มีผลการทดสอบร่างกายยอดเยี่ยม และมีผลการประเมินทางทหารยอดเยี่ยมแล้ว ยังต้องมีลักษณะความเป็นผู้นำที่ดีและเป็นที่ยอมรับจากนายทหารและนักเรียนนายเรือในโรงเรียนด้วย โดยในแต่ละรุ่นจะมีนักเรียนนายเรือต่างชาติจำนวน ๑๕ นาย และมีนักเรียนนายเรือปุญระพีเท่านั้นที่ถูกคัดเลือกให้เป็นนักเรียนปกครองในปีนี้

@@@……ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา พล.ร.อ.(หญิง) ลิซ่า ฟรานเชตติ ผู้บัญชาการทหารเรือสหรัฐฯ รับการเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ของ พล.ร.อ. จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ณ Washington Navy Yard โดยได้จัดพิธีเกียรติยศ Full Honor Ceremony เพื่อเป็นเกียรติกับผู้บัญชาการทหารเรือ จากนั้นผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เข้าเยี่ยมคำนับผู้บัญชาการทหารเรือสหรัฐ ณ อาคารกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) และได้หารือในการเพิ่มการทำงานในกรอบความร่วมมือและเพิ่มความสามารถของกันและกัน โดยมุ่งเน้นการขยายความสามารถในการรับรู้สถานการณ์ทางทะเล (Maritime Domain Awareness : MDA) เพื่อรับมือกับความท้าทายที่มีอยู่ร่วมกัน การหารือเรื่องหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ การปรับปรุงความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และความมุ่งมั่นที่จะพัฒนากองทัพเรือให้ทันสมัย

@@@……นอกจากนี้ ยังได้หารือกันถึงโอกาสในอนาคตสำหรับเสริมสร้างความร่วมมือผ่านการฝึกร่วม และฝึกร่วม/ผสม ทั้งทวิภาคีและพหุภาคี อาทิ การฝึกร่วม/ผสม รหัส Cobra Gold ที่จัดขึ้นในประเทศไทย การฝึกผสมทางเรือ รหัส RIMPAC และรหัส CARAT (Cooperation Afloat Readiness and Training) ซึ่งกองทัพเรือสหรัฐฯ ย้ำถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อกองทัพเรือไทยในฐานะพันธมิตรหลักนอกนาโต้ (Major Non-NATO Ally) หนึ่งในห้าชาติในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ตามสนธิสัญญาของสหรัฐฯ และเป็นชาติผู้นําในสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) รวมถึงมีการหารือประเด็นความปลอดภัยในการทำงาน (safety) ฝ่ายสหรัฐฯ ได้สร้าง “วัฒนธรรมความปลอดภัย” โดยการจัดตั้ง Safety Command ไว้เป็นกลไกขับเคลื่อน ซึ่งจะมีอิสระในการทำรายงานประเมินค่าความปลอดภัยของทุกหน่วยในสังกัด ในสถานการณ์ปัจจุบัน แม้ว่ากำลังมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในระดับนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ตาม ผู้บัญชาการทหารเรือสหรัฐฯ ยืนยันที่จะให้การสนับสนุนความร่วมมือที่มีกับกองทัพเรือไทย อาทิ ด้านการศึกษา ด้านการฝึกอบรมทางทหาร ด้านแผนงานโครงการส่งกำลังบำรุง การฝึกเตรียมกำลังพลเรือดำน้ำที่ศูนย์เครื่องช่วยฝึกของสหรัฐฯ เป็นต้น

@@@……กองทัพอากาศจัดงานยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสครบรอบ 88 ปี ภายใต้แนวคิด “AIR SOVEREIGNTY THROUGH UNBEATABLE COLLABORATION” หรือ “อธิปไตยเหนือน่านฟ้า ผ่านความร่วมมืออันแข็งแกร่ง” ซึ่งสะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันเป็นความภาคภูมิใจของกองทัพอากาศ ในการเสริมสร้างความมั่นคงและความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อเสริมสร้างความภาคภูมิใจในเกียรติประวัติและขีดความสามารถของกองทัพอากาศ ทั้งด้านความมั่นคง การสนับสนุนภาครัฐและเอกชน รวมถึงการช่วยเหลือประชาชน พร้อมแสดงแผนการพัฒนาในอนาคต 2.เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินและการป้องกันประเทศให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาค ตามนโยบายของรัฐบาล 3.เพื่อเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างประเทศ ผ่านการส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงกับกองทัพอากาศมิตรประเทศ

@@@……ทั้งนี้ กำหนดการจัดงาน ระหว่างวันที่ 7-8 มี.ค. 2568 ณ กองบิน 6 ดอนเมือง ภายในงานพบกับการแสดงภาคอากาศของกองทัพอากาศไทย การแสดงการบินผาดแผลงของฝูงบิน August 1st จากสาธารณรัฐประชาชนจีน การแสดงการบินผาดแผลงของฝูงบิน Suryakiran จากอินเดีย และ F-35 Demo Team จากสหรัฐอเมริกา ตลอดจนการตั้งแสดงอากาศยาน จำนวน 28 แบบ 29 เครื่อง รวมทั้งการจัดแสดงนิทรรศการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและงานวิจัยที่น่าสนใจอีกมากมาย

…………..

คอลัมน์  : “Military Key”

โดย.. “รหัสมอร์ส”