มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” เมื่อมีกระแสข่าวว่า คณะไต่สวนของ ป.ป.ช. เสนอความเห็นเกี่ยวกับ คดี “บิ๊กโจ๊ก” และพวก “ไม่ได้กระทำผิด”” ตามข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ และเตรียมชงเข้าที่ประชุมใหญ่ ป.ป.ช.
หลังกระแสข่าวดังกล่าว พ.ต.ท.สราวุธ บุตรดี รองผู้กำกับการ สน.สายไหม หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่ เข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในช่วงเช้า (10 ก.พ.)
เพื่อขอให้พิจารณาเอกสารพยานหลักฐานเพิ่มเติมในการไต่สวนพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล และพวกรวม 8 คน กรณีทุจริตโดยหน้าที่และเรียกรับผลประโยชน์ มาตรา 157 และมาตรา 149 ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์มินนี่
พ.ต.ท.สราวุธ เปิดเผยว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า การพิจารณาของคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. มีการพิจารณาว่า ข้าราชการตำรวจบางนาย “ไม่มีความผิด” จึงทำให้มีความกังวล รวมถึงตั้งข้อสงสัย “มาตรฐาน” ในการชี้มูลของ ป.ป.ช.
ส่วนเอกสารและพยานหลักฐานที่นำมายื่นเพิ่มเติม เป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และเส้นทางการเงินของเว็บพนันออนไลน์ ที่เกี่ยวข้องกับนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง เป็นหลักฐานชุดเดิมที่เคยยื่นไปก่อนหน้านี้ แต่ไม่ได้ถูกนำขึ้นมาพิจารณา จึงสรุปและมอบให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.อีกครั้ง
โดยยืนยันว่า การยื่นพยานหลักฐานและเอกสารเพิ่มเติมในวันนี้ ไม่ถือว่าล่าช้า เพราะคณะพนักงานสอบสวนได้ติดตามการทำงานของ ป.ป.ช.มาโดยตลอด
โดยเฉพาะในสำนวนดังกล่าว มีทั้ง “อดีต ผบ.ตร.” ที่เป็นผู้ถูกกล่าวหา ใช้พยานหลักฐานเดียวกัน แต่กลับถูกพิจารณาว่า มีมูลความผิด ส่วนอีกคดี (คดีบิ๊กโจ๊ก) ทาง ป.ป.ช.กลับขอเอกสารเพิ่มเติม
ส่วนผลการประชุมในวันนี้จะออกมาเป็นอย่างไร ขอไม่ก้าวล่วง แต่ก็หวังว่าทุกฝ่ายจะได้รับความเป็นธรรม
“บิ๊กโจ๊ก” อารมณ์ดี ปัดให้ความเห็นคดีใน ป.ป.ช.
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับนักข่าวด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี ว่า ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องที่ ป.ป.ช. มีการประชุมพิจารณา ความเห็นของคณะไต่สวนในคดีเว็บพนันมินนี่ รวมถึงไม่ทราบกรณีที่มีพนักงานสอบสวนในคดี เข้ามายื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติม เนื่องจากตอนนี้พักอยู่ที่ จ.สงขลา และไม่ได้ติดตามเรื่องนี้ และคงไม่สามารถตอบคำถาม หรือให้ความเห็นแทน ป.ป.ช.ได้ เพราะคดีอยู่ในชั้นการพิจารณาของ ป.ป.ช.
นักข่าวถามว่า หากผลพิจารณา “เป็นคุณ” จะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป ทางพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ย้ำว่า ตนเองไม่ได้ติดตามหรือสนใจเรื่องนี้ และยังไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ช่วงนี้ตนเองออกกำลังกาย และทำบุญ ไม่ได้มาที่กรุงเทพฯ เลย
นักข่าวถามย้ำอีกว่า คิดถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ร้อง “โอ้โห” พร้อมกล่าวว่า “เขาไล่ผมออกมาแบบนี้ ผมจะทำอะไรได้ ก็ต้องว่าไปตามกติกา”
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่าในวันที่ 10 ก.พ. คณะกรรมการ ป.ป.ช. นัดประชุมหลายเรื่อง มีวาระที่สำคัญก็คือ เรื่องกล่าวหา พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย เมื่อครั้งดำรงดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 กับพวก
รวมไปถึง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยมิชอบ รวมอยู่ด้วย
มีรายงานว่า “คณะกรรมการไต่สวน” มีมติให้ตีตกคำร้องของผู้กล่าวหา เพราะเห็นว่า “บิ๊กโจ๊กกับพวก” ไม่เกี่ยวข้องกับเงินจากเว็บพนัน เสนอความเห็นให้ยุติเรื่องคดีกล่าวหา “บิ๊กโจ๊ก” กับลูกน้อง 8 นาย
ขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนคดีนี้ มีความพยายามที่จะประสานงานและให้กรรมการชุดใหญ่เลื่อนการพิจารณามาหลายครั้งแล้วเช่นกัน นอกจากนี้ วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ส่งหลักฐานเพิ่มเติมแบบ “สรุปให้เข้าใจง่าย” ไปให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา
อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่า กรรมการ ป.ป.ช.อาจไม่ได้รับหนังสือที่สรุปให้เข้าใจง่าย ตามที่พนักงานสอบสวนต้องการ ดังนั้น พ.ต.ท.สราวุธจึงส่งตรงถึงคณะกรรมการทุกท่านไปเลย
สำหรับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตอนนี้มี 7 คน มี 1 คนติดเรื่องความเป็นปรปักษ์ เข้าประชุมลงมติไม่ได้ ส่วนอีก 1 คนขอถอนตัว อ้างเรื่องที่ใกล้เกษียณ คงเหลือ 5 คน โดยมีแนวโน้มคาดว่า ถ้ามีการเสนอให้โหวตจริงๆ “ผู้ร้อง” อาจแพ้ด้วยมติ 3:2 ให้ยุติคดีกล่าวหาบิ๊กโจ๊ก
ดังนั้น พนักงานสอบสวนผู้ร้อง จึงต้องใช้วิธีทำหนังสือแสดงข้อเท็จจริงและเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ไปที่กรรมการ ป.ป.ช.ทุกคน ขณะเดียวกัน คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กำลังเร่งรัดให้พิจารณาวินัยร้ายแรง ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วภายในวันที่ 20 ก.พ.นี้ จึงอยากให้ ป.ป.ช. เลื่อนการพิจารณาไปก่อน
เปิดรายละเอียดธุรกรรม 220 ล้าน ตีตกคดี “บิ๊กโจ๊ก”
เมื่อตรวจสอบประเด็นของคณะไต่สวน ป.ป.ช. ที่ได้ไต่สวนเพิ่มเติม และส่งรายงานให้กรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 29 ม.ค.68 มีประเด็นดังนี้
เงินหมุนเวียนบัญชีม้า 6 บัญชี ช่วงปี 2562-2566 มีการทำธุรกรรม 220 ล้านบาท โดย พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ
1.1 เป็นเงินจาก “นาย” ให้ลูกน้องไปชำระค่าใช้จ่าย 94 ล้าน
1.2 เป็นเงินค่าใช้จ่ายพ.ต.ท.คริษฐ์ 113 ล้านบาท
1.3 เงินที่ไม่มีข้อมูลการทำธุรกรรม ประมาณ 13 ล้านบาท
รวมทั้งสิ้น ประมาณ 220ล้านบาท
ส่ง “สำนักตรวจสอบทรัพย์สิน” เช็กที่มาเงิน 94 ล้าน
สำหรับที่มาของเงิน 94 ล้านบาท ที่ “นาย” มอบให้ “พ.ต.ท.คริษฐ์” ไปดำเนินการนั้น มีการชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้องว่า เป็นเงินจากการทำธุรกิจของภรรยา มีกิจการขนส่ง ปั๊มน้ำมัน เป็นเงินจากบิดาที่มอบให้เป็นค่ารักษาพยาบาล เป็นเงินราชการลับ งบลับ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
คณะไต่สวนเห็นควรให้ส่ง “สำนักตรวจสอบทรัพย์สิน” ดำเนินการส่วนนี้ ในเรื่องที่มาที่ไปของเงิน
2.เงินจำนวน 25 ล้านบาทเศษ ที่พ.ต.ท.คริษฐ์ ใช้จ่ายให้ “นาย”
2.1 ค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลให้ครอบครัว 230 ครั้ง รวม 24 ล้านบาท
2.2 ค่าส่วนกลางบ้าน 15 ครั้ง รวม 4.3 แสนบาท
2.3 ค่าส่วนกลางคอนโด 15 ครั้ง รวม 1.2 ล้านบาท
2.4 ค่าโทรศัพท์ 18 ครั้ง 1.1 แสนบาท
ดังนั้น มีการใช้บัญชี 6 บัญชี ใช้จ่ายเรื่องส่วนตัว “นาย” 25.7 ล้านบาท
เหตุผลตีตก ข้อหา 149-157 รับเงินเว็บพนันออนไลน์
คณะไต่สวน มองว่า ข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา 149, 157 เจ้าพนักงาน ต้องมีหน้าที่โดยตรงเรื่องที่ไปรับผลประโยชน์ ผู้ถูกกล่าวหา คือ “บิ๊กโจ๊ก” และพวก ไม่ได้มีหน้าที่เรื่องนี้ เงินโอนจากบัญชีม้าของพ.ต.ท.คริษฐ์ รับโอนเพียงทอดเดียว ผู้รับโอนไม่ทราบว่า มีการโอนเงินจากบัญชีม้า ที่โยงเว็บพนันอาจเป็นการโอนเงินตามคำสั่ง “นาย” เพื่อใช้ปฏิบัติงานรับฟังไม่ได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดตามข้อกล่าวหา
ตีตกข้อหา “หนึ่ง” แชตไลน์เตือน “มินนี่” เรื่องเว็บพนัน
ข้อกล่าวหา นายตำรวจชื่อ “หนึ่ง” ที่มีสัมพันธ์ใกล้ชิด “มินนี่” เจ้าของเว็บ ตรวจพบเเชตไลน์ เตือนให้ลบ ไม่ให้ใครรู้ความสัมพันธ์ และเรื่องเว็บพนันพบแชตไลน์การขอยืมเงินจากมินนี่ เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ และมีการโอนคืนให้คำให้การผู้ถูกกล่าวหาฟังขึ้น ว่าเจ้าตัวไม่รู้ไม่เห็น ว่ามินนี่ไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ และเงินที่ยืม ชดใช้คืนไปหมดแล้ว
ส่งสำนวน “คริษฐ์” ผิดปมเว็บพนัน คืน สน.เตาปูน
พ.ต.ท.คริษฐ์ ถูกแจ้งข้อหาเว็บพนัน และฟอกเงินมีเส้นเงินรับโอนจากบัญชีม้า 7 ครั้ง รวม 1 ล้านบาทโยงเว็บ BNKข้ออ้าง เป็นหนี้เงินยืมระหว่าง “พ่อตานาย” กับ “เซียนพระ” ฟังไม่ขึ้น ไม่ได้ถูกกล่าวหาในคดีละเว้นปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 149, 157 พ.ต.ท.คริษฐ์ไม่ได้มีหน้าที่โดยตรง
ในคดีเว็บพนันคณะไต่สวนเสียงข้างมาก 10 คน เห็นควรส่งสำนวนคืนสน.เตาปูนร้องจริยธรรม “บิ๊ก ป.ป.ช.” ส่อ 2 มาตรฐาน ศึกสีกากี
นอกจากคดีบิ๊กโจ๊ก กับพวก ถูกกล่าวหา ฟอกเงินเว็บพนัน ที่มีรายงานเบื้องต้นว่า คณะกรรมการไต่สวนฯมีความเห็นเบื้องต้นให้ตีตกคำร้อง จะเข้า ป.ป.ช.ชุดใหม่ ในวันนี้
ยังมีวาระที่ต้องจับตาอีกหนึ่งเรื่อง คือ คำร้องถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช.บางคน จากคดีที่เกี่ยวเนื่องกันด้วย ต้องลุ้นมติเหมือนกัน ว่าจะมีมติส่งให้ศาลฎีกา พิจารณาความผิดด้านจริยธรรม เพราะมีการทำคดีบิ๊กโจ๊ก แตกต่างกับ “คดีบิ๊กต่อ” แบบ 2 มาตรฐาน
ส่งศาลฎีกา สอบจริยธรรมกรรมการ ป.ป.ช.
กล่าวโดยสรุปคือ กรรมการ ป.ป.ช.คนนี้ เป็นอนุกรรมการกลั่นกรองสำนวนคดีของบิ๊กโจ๊ก ที่ถูกกล่าวหาในพฤติการณ์เดียวกันกับบิ๊กต่อ ว่ารับผลประโยชน์จากเว็บพนันเหมือนกัน เป็นพยานหลักฐานเดียวกันด้วย
ปรากฎว่า กรรมการ ป.ป.ช.รายนี้ กลับมีความเห็นในลักษณะฟันธงว่า “บิ๊กต่อ” มีการรับเงินจากเว็บพนัน รู้เห็นกับเงินบัญชีม้า จึงเป็นการเลือกปฏิบัติ แสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นกลางสองมาตรฐานอย่างชัดแจ้งหรือไม่
จึงขอให้ประธาน ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนและมีความเห็นถึงการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และเสนอเรื่องต่อศาลฎีกา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 เพื่อวินิจฉัยโดยด่วนต่อไป
และในระหว่างนี้ขอให้สั่งการไม่ให้กรรมการ ป.ป.ช.รายนี้ทำการไต่สวน หรือลงมติในเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงหรือโดยอ้อม เนื่องจากเป็นคู่กรณีที่ไม่เป็นกลางและถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียอันต้องห้ามพิจารณา
เลขาฯป.ป.ช. แจงเลื่อนประชุม วาระคดีเว็บพนัน “มินนี่”
ล่าสุด “สาโรจน์ พึงรำพรรณ” เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ไม่มีวาระการพิจารณา เรื่องเว็บพนันออนไลน์มินนี่ ที่เชื่อมโยงไปถึงบิ๊กตำรวจ และยังไม่ทราบว่าวาระดังกล่าวจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อใด
กระแสข่าวการประชุมเรื่องดังกล่าวในวันนี้ ไม่เป็นความจริง รวมไปถึงไม่ทราบว่าคดีดังกล่าว จะมีผู้กระทำความผิดรายเดียวหรือไม่
ส่วนกรณีพนักงานสอบสวนนำพยานหลักฐาน มายื่นเพิ่มเติมต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อเช้าวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลดังกล่าวไปสรุป และแจ้งให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบต่อไป
………………………..
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม
