“เทียนประสิทธิ์” เผยทิศทางท่องเที่ยวปี 68 เน้นด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะตลาดยุโรป คาดรัฐคลอดมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งในเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว ดันไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวภูมิภาคได้ไม่ยาก
นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า แนวโน้มท่องเที่ยวปี 68 นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับโรงแรมและธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับโรงแรมที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้จึงมีโอกาสทางธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากตลาดนักท่องเที่ยวยุโรป เนื่องจากการรับรู้ถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อน โรงแรมต้องเตรียมพร้อมและปรับตัวสู่การใส่ใจสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เพื่อรองรับระเบียบข้อบังคับใหม่ของโลกด้านความยั่งยืนที่จะบังคับใช้ชัดเจนในปี 2569
ด้านแนวโน้มการเติบโตด้านการท่องเที่ยวเป็นไปในทิศทางบวก นับเป็นสัญญาณที่ดี สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่ยังมีปัจจัยที่ยังต้องติดตามคือผลกระทบจากค่าฝุ่น PM 2.5 การแข่งขันเพื่อเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สูงขึ้นจากการออกมาตรการยกเว้นวีซ่า (วีซ่าฟรี) ในหลายประเทศ
ขณะที่ภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยซึ่งทางหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งในด้านการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวให้ดีขึ้นอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ในแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
ทั้งนี้ สมาคมฯ เชื่อมั่นว่าตามที่ภาครัฐเตรียมแผนการท่องเที่ยว โดยบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน การเพิ่มความถี่เที่ยวบินให้เพียงพอต่อการเดินทาง ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวทั้งในเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวผลักดันให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวยกระดับมาตรฐานความยั่งยืนรวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทั่วประเทศตลอดทั้งปีจะสามารถผลักดันให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางการท่องเที่ยว ของภูมิภาค ตามนโยบายที่ได้ประกาศให้ปี 2568 เป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025
สำหรับสถานการณ์ลูกค้าต่างชาติของธุรกิจโรงแรมในเดือน ม.ค. ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวเอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรปตะวันตก โดยในไตรมาส 1 ปี 2568 ธุรกิจโรงแรมส่วนใหญ่ 35% คาดว่าจำนวน ลูกค้าต่างชาติ (ไม่รวมจีน) จะใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนโรงแรม 25% คาดเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10% ขณะที่โรงแรมอีก 14% คาดเพิ่มขึ้น 11-20% ด้านจำนวนลูกค้าจีน พบว่าโรงแรมส่วนใหญ่กว่า 42% คาดว่าจะทรงตัวจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ 28% มองว่าจะมีจำนวนลดลงไม่เกิน 10% ส่วนโรงแรม 16% คาดว่าจะมีจำนวนลูกค้าจีนเพิ่มขึ้นไม่เกิน 10%
ทั้งนี้หากดูราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวันในไตรมาส 1 ปี 2568 พบว่าธุรกิจโรงแรมประมาณ 70% คาดว่าราคาห้องพักเฉลี่ยต่อวันมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป และส่วนใหญ่เป็นการปรับราคาเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ส่วนอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) ทั้งประเทศในเดือน ม.ค. เฉลี่ยอยู่ที่ 74% ทรงตัวจากเดือน ธ.ค. แต่ถือว่าปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่คาดการณ์อัตราการเข้าพักเดือน ก.พ. น่าจะอยู่ที่ 68%”
ด้านโรงแรมใน ภาคใต้ มีอัตราการเข้าพักเดือน ม.ค. มากที่สุดเฉลี่ย 81.1% เพิ่มขึ้นจาก 76% ของเดือน ธ.ค. รองลงมาคือภาคกลาง 77.9% ลดลงเล็กน้อยจาก 79.5% ของเดือนก่อน ส่วนภาคตะวันออก 72.5% ลดลงจาก 83.9% ของเดือนก่อน และภาคเหนือ 71.7% เพิ่มขึ้นจาก 66.6% ของเดือนก่อน ด้านโรงแรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่มีการแสดงข้อมูล เนื่องจากมีผู้ตอบแบบสอบถามน้อย