“ไอติม” ยัน ไม่ได้เอาคืน หลัง ปชน. จ่อเข้าชื่อถอดถอน “ประธาน ป.ป.ช.” แง้ม มีข้อร้องเรียนอื่น ส่อประพฤติมิชอบ ลั่น แม้ “คดี 44 สส.” ถูกยก ก็จะยังทำหน้าที่ตรวจสอบ โยนถาม “วันนอร์” ส่งต่อเรื่องถึงศาลฎีกาหรือไม่ ไม่กังวล “พรรคร่วมรัฐบาล” แตกคอ ดูดน้องงู สส.จาก “ประชาชน” ไปเสริมทัพ
วันที่ 20 ก.พ.2568 เวลา 13.30 น.ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคประชาชน จะร่วมกันใช้สิทธิ์ตามมาตรา 236 ในการเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของรัฐสภา เพื่อถอดถอนประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จากกรณีคลิปหลุด ว่า เป็นเรื่องจริง ซึ่งพรรคประชาชนเอง มีมติพรรคแล้ว ตอนนี้จึงอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมรายชื่อ เพราะเรามีประมาณ 141 คน เป็นจำนวนเฉียดฉิว มั่นใจว่าเพียงพอ ต้องยืนยันว่า ไม่ใช่การเอาคืน เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของ สส. ในการที่เราเข้าชื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น และต้องชี้แจงอย่างตรงไปมาว่า ในข้อร้องเรียน ที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์หน้า ไม่ได้มีแค่คลิปวิดีโอ ระหว่าง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช. ตามที่ปรากฏ แต่ยังมีข้อร้องเรียน เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในส่วนอื่นด้วย ซึ่งพรรคประชาชนเราได้รวบรวมข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง
“ถึงแม้ไม่มีคดี 44 สส. ก็เป็นสิ่งที่เราต้องทำ เพราะมีหลักฐาน และไม่ใช่แค่พรรคประชาชนทำได้เท่านั้น แต่เป็นสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภาทุกคนทุกฝ่าย ดังนั้น ถ้ามี สส.พรรคอื่น และ สว. เห็นตรงกันว่า ปัญหาทุจริตเป็นเรื่องสำคัญ ก็ใช้กลไกนี้ ในการตรวจสอบ และสามารถร่วมลงชื่อสนับสนุนได้ ย้ำว่า เราไม่ได้คิดถึงผลกระทบต่อคดี หรือหากพรุ่งนี้ คดี 44 สส.ถูกยกไปหมด เราก็ยังยืนยันในการทำหน้าที่ตรวจสอบ” นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ในทางคู่ขนาน เรายังได้ยื่นแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ รายมาตรา 236 ด้วย ซึ่งกฎหมายระบุว่า หากสมาชิกรัฐสภา ต้องการตรวจสอบการทำงานหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องยื่นเรื่องไปที่ประธานรัฐสภา เพื่อให้ประธานรัฐสภา มีดุลพินิจในการพิจารณาว่า สมควรส่งเรื่องไปที่ศาลฎีกา เพื่อตั้งกรรมการสอบสวนพิเศษหรือไม่ ซึ่งจะเกิดความสุ่มเสี่ยง ที่จะเกิดการฮั้วกัน ซึ่งหวังว่าจะเป็นร่างฉบับหนึ่ง ที่เราสามารถหยิบยกมาพิจารณาร่วมกันในที่ประชุมรัฐสภาได้ ส่วนขั้นตอนทางกฎหมายหลังจากนี้ ต้องรอการชี้แจงอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ส่วนเรื่องดังกล่าวจะสามารถไปถึงศาลฎีกาได้หรือไม่นั้น ต้องไปถามประธานรัฐสภา
เมื่อถามว่าจะมีการยื่นตรวจสอบประธานรัฐสภาด้วยหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่น ขณะนี้อยู่ในช่วงที่พรรคกำลังหารือกันถึงความเป็นไปได้ เพราะกลไก มาตรา 236 เป็นกลไกเฉพาะสำหรับการร้องเรียน ป.ป.ช.
เมื่อถามว่าจะไปรับทราบข้อกล่าวหาคดี 44 สส. ทางพรรคจะส่งใครไปเป็นชุดแรกบ้าง นายพริษฐ์ กล่าวว่า รอให้แต่ละท่านชี้แจงน่าจะดีกว่า แต่ในเชิงหลักการของพรรค เราต้องยืนยันว่า สิ่งที่ สส. ของพรรคได้กระทำไป ไม่มีอะไรที่เข้าข่ายผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง และเราจะทำเต็มที่ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ผ่านกระบวนการที่กำลังจะเกิดขึ้น ส่วนคนที่เตรียมแนวทางการต่อสู้ คือ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ฝ่ายกฎหมาย
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ หากพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทยแตกกัน จะมีการดูด สส.ของพรรคไป เพื่อหาเสียงสนับสนุน นายพริษฐ์ กล่าวยืนยันว่า สส. พรรคประชาชน มีความเป็นเอกภาพในการเดินหน้าต่อ ผลักดันงาน ซื่อสัตย์ต่อประชาชน กรณีการยุบพรรคก้าวไกล ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ว่า สส. ทุกคนร่วมกันเดินทางต่อ ไม่ว่าความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ก็ไม่กระทบต่อการทำหน้าที่ของพรรคประชาชน