นายกรัฐมนตรี พร้อมรองนายกฝ่ายความมั่นคงและคณะลงพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาอย่างเข้มงวด พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการอย่างเข้มงวด
เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางด้วยเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ มาติดตามความคืบหน้ากรณีการปราบปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งกรุงปอยเปต ประเทศกัมพูชา
โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา,พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ,พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก,นายปริญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว,นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมกิจการกระจายเสียงกิจการโทรศัพท์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พร้อมข้าราชการทหาร ตำรวจในพื้นที่ให้การต้อนรับ

เมื่อเดินทางถึงนายกฯ ได้เป็นประธานการประชุมหารือประเด็นการปราบปรามคอลเซนเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์
ทั้งนี้นายกฯกล่าวก่อนการประชุม ว่า วันนี้ตั้งใจจะมาตรวจดูงานและติดตามจากสัปดาห์ที่แล้ว นายภูมิธรรม และนายประเสริฐมาดูพื้นที่ก่อนหน้านี้ และแน่นอนว่าทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าปัญหาของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ดังนั้นต้องขอขอบคุณคณะฝ่ายความมั่นคง และตำรวจที่ช่วยกันดูแลอย่างดี ทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นถูกจัดการปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดีมาก ต้องขอขอบคุณและขอชื่นชมด้วย ทั้งนี้ วันนี้ตนมาเองก็จะติดตามดูว่าจากข้อสั่งการครั้งที่แล้ว ที่ได้สั่งการไปแล้วได้ทำอะไรไปแล้ว จะได้ติดตามผลว่าต้องมีอะไรที่ทำเพิ่มเติม หรือทางฝ่ายความมั่นคงต้องการอะไรเพิ่มเติมจากรัฐบาลเพื่อให้ทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ ทางฝ่ายรัฐและฝ่ายเอกชน เพื่อสื่อสารให้ประชาชนได้ทราบว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เพราะบางคนมีความหนักใจผู้ใหญ่ที่อยู่ที่บ้านอาจจะไม่คล่องตัวกับเครื่องมือสื่อสาร กลัวจะโดนหลอกหรือไม่ ดังนั้นวันนี้เราต้องมาดูกันอย่างใกล้ชิดในพื้นที่จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับประเทศกัมพูชา

จากนั้นเวลา 14.50 น.นายกฯและคณะ ตรวจเยี่ยม ศูนย์คัดกรองตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นศูนย์คัดแยกเหยื่อขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ภายใน ร.12 พัน.3 รอ. ตำบลอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยนายกฯรับฟังบรรยายสรุป พร้อมสอบถามขั้นตอนการคัดกรองฯ โดยเจ้าหน้าที่รายงานว่า ในวันที่ 1 มี.ค.เวลา 10.00 น.จะมีผู้ที่ถูกหลอกไปทำงานส่งกลับมาประเทศไทยจำนวน 119 คน และจะถูกนำตัวมาคัดกรอง คัดแยก และคุ้มครอง ที่ศูนย์คัดกรองฯแห่งนี้ ซึ่งกระบวนการโดยปกติจะใช้เวลา 15 วัน แต่ครั้งนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
ต่อมานายกฯตรวจเยี่ยมจุดคัดกรองเหยื่อขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ที่จะมีการคัดกรองทั้งเรื่องสุขภาพกาย สุขภาพจิต ก่อนไปที่ห้องพักคอยเพื่อ เข้าสู่กระบวนการต่อไป

ทั้งนี้สืบเนื่องจากภายหลังที่รัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนและประเทศเพื่อนบ้านรอบประเทศไทยร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ตามแนวตะเข็บชายแดนทั้งประเทศพม่าประเทศกัมพูชาอย่างจริงจังด้วยการตัดสัญญานอินเตอร์เน็ตต่างๆรวมทั้งตัดไฟตัดน้ำมันด้วย โดยเฉพาะที่ชายแดนไทยกัมพูชาทางด้านจังหวัดสระแก้ว มีการตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตและลดเสาสัญญาณลงต่ำเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมานั้น ทำให้มีผลกระทบโดยตรงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกรุงปอยเปตเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นแล้วทางรัฐบาลกัมพูชายังมีการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างเข้มงวด จนสามารถจับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้จำนวนมาก และในจำนวนนั้นมีคนไทยที่ถูกหลอกหรือสมัครใจเข้ามาทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย โดยล่าสุดทางรัฐบาลกัมพูชาจะนำตัวคนไทยที่ถูกจับมาส่งให้รัฐบาลไทย ทำให้การเดินทางมาของคณะนายกรัฐมนตรีไทยในครั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าของการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจังนั้นเอง
ขอบคุณภาพจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดสระแก้ว