วันพุธ, เมษายน 30, 2025
หน้าแรกHighlight‘อนุทิน’สั่งสส.-รมต.‘ภท.’ห้ามโดดซักฟอก คาดโทษถ้าหายเตรียม‘one way ticket’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘อนุทิน’สั่งสส.-รมต.‘ภท.’ห้ามโดดซักฟอก คาดโทษถ้าหายเตรียม‘one way ticket’

“อนุทิน“ ลั่น กำชับ สส.-รมต.ภูมิใจไทย ห้ามโดดประชุมซักฟอก พร้อมซัพพอร์ตข้อมูลนายกฯ คาดโทษหากหายเตรียม “one way ticket” บอกดี “ลุงป้อม” ร่วมอภิปรายด้วย ไม่เห็นมานาน จะสั้นจะยาวก็ต้องฟัง เชื่อมีน้ำหนัก

วันที่ 5 มี.ค.68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีรายงานว่า เข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า พร้อมกับนายเนวิน ชิดชอบ เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา โดยนายอนุทิน ได้ถามกลับผู้สื่อข่าวว่า “รู้ได้อย่างไร” ก่อนที่จะกล่าวยอมรับว่าไปเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนนายเนวิน ตนก็ชวนไปเหมือนเดิมนัดกันวันหยุดได้คิวกันพอดี

ส่วนมีอะไรจะต้องเคลียร์ใจกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คุยกันหลายเรื่อง ลมฟ้าอากาศ เรื่องงานบ้าง ขอคำแนะนำบ้างในฐานะที่นายทักษิณเป็นผู้มีประสบการณ์

ก่อนที่นายอนุทินจะถามย้ำกับผู้สื่อข่าวว่าใครหลุดเรื่องนี้ออกมาข่าวมาจากไหนตนยังไม่เห็นข่าวเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าเป็นข่าวจริงใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนก็ยืนอยู่ตรงนี้ ก็พูดอยู่ถ้าเป็นไปได้อยากไปพบกันทุกเดือน เป็นเรื่องปกติ ซึ่งไปตั้งแต่เดือน ตุลาคม พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์

เมื่อถามว่า นายทักษิณ ได้ให้คำแนะนำอะไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า เวลาตนถามท่านก็ให้คำแนะนำที่ดีเสมอ

เมื่อถามต่อว่า หนึ่งในประเด็นที่หารือ มีเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ พนันออนไลน์ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกเรื่องทั้งเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ นโยบายรัฐบาล ไม่ใช่การหารือแต่เป็นการพูดคุยกัน

ส่วนต้องเคลียร์ใจกัน ระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยหรือไม่เพราะที่ผ่านมามีประเด็นเรื่องรอยร้าว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่มี เพราะที่ผ่านมาตนคุยกับนายทักษิณ เป็นประจำอยู่แล้ว ไม่คุยโทรศัพท์ก็คุยไลน์ ก็ไม่เคยมีอะไรที่เป็นปัญหา

หลังจากนี้จะเห็นประเด็นเรื่องภูมิใจไทยมีรอยร้าวมีปัญหา ขวางกันกับพรรคเพื่อไทย หรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า “ ภูมิใจไทยเคยขวางอะไรเพื่อไทย พูดแบบนี้เสี้ยมคนให้ชนกันอีกแล้ว”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ก่อนหน้านี้มีหลายประเด็นที่พรรคภูมิใจไทยไม่เห็นกับพรรคเพื่อไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยก็คุยกันและหาข้อสรุปได้ทุกครั้ง เช่น ร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เดิมทีในร่างระบุให้นายกฯรักษาการในกฎหมายเพียงคนเดียว ทางกระทรวงมหาดไทยได้ชี้แจงกับนายกฯว่า ยังมีกฎหมาย ควบคุมอาคารและความปลอดภัยต่างๆ หากนายกรักษาการเพียงคนเดียวอาจจะหนักเกินไป นายกฯก็เห็นด้วย จนในที่สุดให้กระทรวงมหาดไทยร่วมรักษาการ เราก็ทำงานด้วยกัน ถ้าเราไม่ใช่ทีมเวิร์กไม่ห่วงกัน ก็ให้นายกฯรักษาการคนเดียวไปเลย เพราะกระทรวงมหาดไทยมีบทบาทอยู่แล้วในกฎหมายการพนัน แต่สปิริตการอยู่ด้วยกัน ต้องร่วมรับผิดชอบด้วยกัน มีอะไรจะได้แบ่งเบาภาระ เพราะนายกฯมีภาระมากมาย อาจจะไม่รู้ในเรื่องรายละเอียดของกฎหมาย นี่คือการพิสูจน์ให้เห็นว่า การทำงานด้วยกัน ด้วยความห่วงใยร่วมมือและสนับสนุนกัน

เมื่อถามว่า นายทักษิณให้คำแนะนำเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า ก็มีการพูดคุยกัน เพราะกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มีการร่างมานานแล้ว ซึ่ง ร่างของกฤษฎีกาก็มีเรื่องของผู้ที่ที่จะเข้าไปเล่นกาสิโนกำหนดกรอบเงินในบัญชี 50 ล้านบาท หากร่างนี้เข้า ครม. แล้ว ครม.ไปตัด ก็จะเห็นแย้งกับกฤษฎีกา ซึ่งอาจจะมีการไปศึกษาอีกครั้ง หรือให้สภารับหลักการแล้วตั้งกรรมาธิการ แปรญัตติก็จะกลายเป็นกฎหมายของสภาในที่สุด

ส่วนสัปดาห์หน้า กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี เพราะกฎหมายที่รอเข้า ครม. ก็มีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์และพนันออนไลน์ และตนก็ได้บอกกับนายกไปว่าหากจะนำกฎหมายทั้งสองฉบับนี้เข้า ครม. ก็ขอให้เร่ง เอาร่างการเพิ่มโทษการพนันเถื่อนเข้าไปก่อนเพื่อจะได้รองรับกัน หากจะทำให้การพนันถูกกฎหมาย เพราะฉะนั้นคนที่ทำผิดกฏหมายต้องมีโทษหนัก ซึ่งตอนนี้โทษการพนันทั้งผู้เล่นและผู้จัดกระจิ๋วเดียว ผู้เล่นแทบไม่มีโทษเลย คืนเดียวลงบันทึกประจำวันลงประวัติก็กลับบ้านแล้ว พรุ่งนี้ก็มาเล่นใหม่ เราจึงต้องเพิ่มโทษให้หนักขึ้น ถ้าเล่นการพนันไม่ถูกต้องตามกฏหมายจะมีโทษจำคุกและยึดทรัพย์ รวมถึงต้องมีกฎหมายฟอกเงินด้วย แต่ขณะนี้นายกฯ ยังไม่ได้บรรจุร่างกฎหมายทั้งสองฉบับนี้ แล้วยังไม่ทราบว่าจะบรรจุเมื่อไหร่ อยู่ที่ดุลยพินิจของนายกฯตนไปก้าวล่วงไม่ได้ ทำได้แค่ให้ข้อมูล

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยถึงการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจกับนายทักษิณ และนายกฯ หรือไม่ นายอนุทิน ร้องโอ๊ย ตรงนั้นไม่ต้องพูดหรอก เพราะเราเชียร์กันมาตั้งแต่วันที่ไปดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งวันนั้นเรายังไม่ทราบว่านายกฯจะถูกอภิปรายคนเดียว แต่พอทราบว่านายกถูกอภิปรายคนเดียวตนก็ออกมาให้ความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนเต็มที่ ซึ่งวันอภิปราย สส. พรรคภูมิใจไทยห้ามลา ห้ามขาด รวมถึงรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทั้ง 8 คน ก็ต้องเตรียมข้อมูลตรงไหนที่ถูกพาดพิงต้องช่วยชี้แจง อย่าหวังให้นายกฯตอบคนเดียวคงไม่ได้ เพราะท่านจะไปรู้รายละเอียดทั้งหมดได้อย่างไร แต่หากนายกฯมีความประสงค์จะตอบเอง รัฐมนตรีทั้งหมดรวมถึงข้าราชต้องเตรียมข้อมูล เรามีการเตรียมตัวเพื่อสนับสนุนข้อมูลอย่างเต็มที่

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีระบุได้ส่งข้อความขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าพรรคร่วทรัฐบาลทุกคน นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านก็พูดสนุก ติดตลกไปอย่างนั้น มีใครกล้าไม่ช่วย เพราะเป็นสปิริตอยู่แล้ว แต่ก็จำไม่ได้เหมือนท่านส่งเป็นสติกเกอร์ แต่ไม่ได้เป็นการขอความช่วยเหลือ ท่านนายกไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้ว ใครจะปล่อยให้นายกทำแบบนั้น ถ้าทำแบบนั้นตนก็คงต้องโทรศัพท์ไปให้นายกฯ unsend (ยกเลิกข้อความ) เพราะเป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี และอย่าไปคิดว่าเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียง เพราะนายกโดนคือรัฐบาลโดน รัฐมนตรีโดน และนายกก็ไม่ได้มีกระทรวงสังกัด

เมื่อถามย้ำว่า ในญัตติ ระบุอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวไม่ได้ อภิปรายรัฐมนตรีทั้งคณะ นายอนุทินกล่าวว่า นโยบายนายกรัฐมนตรีถูกขับเคลื่อนโดยใคร กระทรวงไหนถูกพาดพิง และบอกว่านายกฯต้องชี้แจงเองนายกฯก็พร้อม เราก็เตรียมข้อมูลให้แต่ถ้ามาพาดพิงชื่อและตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงไหนก็ตามคนนั้นก็มีสิทธิ์ใช้สิทธิ์ถูกพาดพิง ซึ่งไม่มีกฏว่าห้ามชี้แจง

เมื่อถามว่า การอภิปรายครั้งนี้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ สส.บัญชีรายชื่อ จะอภิปรายด้วยหวั่นไหวหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เหรอ ก็ดีเพราะไม่ได้เห็นท่านในสภามานาน

ส่วนคาดหวังกับการอภิปรายของพลเอกประวิตรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “เราต้องให้ความเคารพ คำอภิปรายของสส.ทุกคน เพราะพลเอกประวิตรก็เป็น สส. ระดับพลเอกประวิตรพูดอะไรมาก็ต้องมีน้ำหนัก แม้มันจะสั้นจะยาว ก็มีน้ำหนัก”

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาก็ทำงานร่วมกันกับ พลเอกประวิตร รู้สึกหวั่นเกรงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นบทบาทหน้าที่ วันนี้บทบาทเราเป็นรัฐบาล ถึงแม้ว่าคนที่เคยทำงานร่วมกันมาจะมีบทบาทเป็นฝ่ายค้าน เราก็ต้องรับฟังและชี้แจง ฝ่ายค้านซักฟอกรัฐบาลชี้แจงได้ก็รอด ชี้แจงไม่ได้ก็ไม่รอด ถึงแม้จะรอดมือก็ไม่รอดสังคม ดังนั้นดีที่สุดคือต้องชี้แจงให้ได้ และนำข้อเท็จจริงออกมาชี้แจงให้ได้มากที่สุด อย่างหน่วยงานที่ตนกำกับดูแลอยู่ 4 กระทรวงก็พร้อมอยู่แล้ว รัฐมนตรีคนไหนไม่พร้อมก็ตัดสินรัฐมนตรีในส่วนของตนได้ ทุกคนต้องพร้อมไม่อยู่ก็ไม่ได้ -ไม่อยู่ก็ One Way Ticket โดยย้ำว่า เฉพาะรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยไม่เกี่ยวกับพรรคอื่น

เมื่อถามว่า ข้อมูลการอภิปรายของพลเอกประวิตรอาจทำให้รัฐบาลสั่นสะเทือน ถึงขั้นยุบสภาได้ นายอนุทิน กล่าวว่าก็ต้องฟังท่านอภิปรายก่อน เราไม่รู้ว่ามีข้อมูลอะไรบ้าง ของพวกนี้โกหกไม่ได้ คนอภิปรายก็ต้องมีหลักฐาน คนที่ชี้แจงก็ต้องแก้ต่าง ทุกอย่างอยู่ที่วิธีการของแต่ละคน

ส่วนการอภิปรายสส.พรรคภูมิใจไทยจะเป็นองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ขอใช้คำว่าองครักษ์ แต่เป็นหน้าที่ถ้าใครทำอะไรไม่อยู่ในกฎระเบียบ หรือผิดข้อบังคับ เราก็มีสิทธิ์ที่จะทักท้วงเพื่อไม่ให้เสียเวลาการประชุม เพราะบางทีใช้เวลานานไปก็ไม่เกิดประโยชน์ หากมีการพาดพิงก็ต้องดูว่าอยู่ในข้อบังคับการประชุมหรือไม่ ถือเป็นเรื่องปกติของการอภิปราย.

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img