นายกฯประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้ (10 มี.ค.) ลุ้นเคาะแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 สำหรับบุคคลทั่วไป คาดนำร่องกับประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 3 ล้านคน วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในวันนี้ (10 มี.ค.)จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ และความคืบหน้าของการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาอย่างยิ่งโครงการ กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยดิจิทัลวอลเล็ตโดยการแจกเงิน 10,000 บาท ในเฟสที่ 3 โดยจะแจกผ่านในรูปแบบดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมวงเงินไว้กว่า 1.5 แสนล้านบาท ครอบคลุมประชาชนประมาณ 15 ล้านคน จากประชาชนที่มีการลงทะเบียนแล้วกว่า 20 ล้านคน
โดยคณะกรรมการฯจะได้มีการรับฟังข้อมูลความคืบหน้าในการพัฒนาระบบ Open Loops ที่จะใช้ควบคู่ไปกับแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งในส่วนนี้สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ DGA จะรายงานความคืบหน้าในการพัฒนาระบบให้นายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการรับทราบว่าระบบจะมีความพร้อมทันไตรมาสที่ 2 ตามนโยบายของรัฐบาล
คาดว่าคณะอนุกรรมการฯจะได้มีการเสนอให้ที่ประชุมในวันนี้พิจารณาคือรูปแบบการแจกเงินที่อาจมีการจ่ายให้กับบางกลุ่มก่อนเพื่อทดลองระบบใหม่ โดยนำร่องกับประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 3 ล้านคน วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในกลุ่มแรกนี้จะเน้นกลุ่มที่มีความสามารถในการเรียนรู้การใช้เทคโนโลยี โดยคาดว่าจะเริ่มโอนเงินภายในไตรมาสที่ 2 หรืออย่างช้าในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังจะติดตามความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากกระทรวงต่าง ๆ เช่น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่มีโครงการ “เที่ยวคนละครึ่ง” และการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเทศกาลต่าง ๆ กระทรวงพาณิชย์ที่มุ่งเน้นการขยายตัวของการส่งออกให้ได้ตามเป้าหมาย 4.4% ในปีนี้ และกระทรวงการคลังที่เร่งการลงทุน การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2568 ให้ได้มากกว่า 80% รวมถึงการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มค้าขาย
โครงการแจกเงินดิจิทัลนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลหวังว่าจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ถึง 3-3.5% ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ส่วนคุณสมบัติ รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ดังนี้
- ประชาชนที่มีชื่อและที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
- สัญชาติไทย
- มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน (วันที่ 15 กันยายน 2567)
- ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566
- ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐรวมกันเกิน 500,000 บาท ตรวจสอบข้อมูลเงินฝาก 6 ประเภท ได้แก่เงินฝากกระแสรายวัน เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ บัตรเงินฝาก ใบรับเงินฝาก ผลิตภัณฑ์เงินฝากในชื่อเรียกอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกับข้อข้างต้น (เงินฝากดังกล่าวให้หมายความถึงเฉพาะเงินฝากที่อยู่ในรูปสกุลเงินบาทเท่านั้น และไม่รวมถึงเงินฝากในบัญชีร่วม และเป็นเงินฝาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567)
6.ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
7.ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
8.ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ