“สุริยะ” คาดประชาชนเดินทางสงกรานต์นี้กว่า 16.32 ล้านคน เจรจา 6 สายการบินแก้ปัญหาตั๋วแพง เพิ่ม 124 เที่ยวบิน 25,000 ที่นั่ง พร้อมหั่นค่าตั๋วลดลง 30%
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้ (10 มี.ค.2568) ได้มีการประชุมร่วมกับทุกหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม เพื่อเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในวันที่ 11-17 เม.ย. 2568 เพื่อให้การเดินทางของประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัยตลอดเส้นทาง และมีราคาค่าโดยสารที่เหมาะสม
อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ ประเมินว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวเข้า-ออกกรุงเทพมหานคร (กทม.) ด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล รวม 16.32 ล้านคัน แบ่งเป็น การจราจรบนทางหลวงสายหลักและมอเตอร์เวย์ รวม 7.01 ล้านคัน และบนทางพิเศษ รวม 9.31 ล้านคัน
ขณะที่การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ คาดว่าประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถโดยสารสาธารณะ รถไฟ เรือโดยสารสาธารณะ และเครื่องบิน รวม 15.84 ล้านคน-เที่ยว แบ่งเป็น การเดินทางภายใน กทม. และปริมณฑล 11.50 ล้านคน-เที่ยว, การเดินทางระหว่างจังหวัด 2.52 ล้านคน-เที่ยว และการเดินทางระหว่างประเทศ 1.82 ล้านคน-เที่ยว
ส่วนปัญหาราคาตั๋วเครื่องบินที่มีราคาสูงได้สั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ติดตามและลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมืองอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ พร้อมกับให้หารือกับ 6 สายการบิน เพื่อร่วมกันสนับสนุนมาตรการแก้ไขปัญหาตั๋วแพง เนื่องจากเป็นช่วงที่มีปริมาณความต้องการเดินทางสูง
โดยสายการบินที่เข้าร่วมสนับสนุนแก้ปัญหาตั๋วแพง ประกอบด้วย บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รวมถึงสายการบินในสมาคมสายการบินประเทศไทย ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยแอร์เอเชีย, นกแอร์, ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ท ซึ่งจะร่วมปรับลดราคาตั๋วเครื่องบินลง 30% จากราคาเพดาน ในเที่ยวบินภายในประเทศที่ได้รับความนิยม พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนเที่ยวบินรวม 124 เที่ยวบิน และมีที่นั่งเพิ่มขึ้นรวม 25,000 ที่นั่ง
ทั้งนี้จำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้นรวม 124 เที่ยวบินนั้น ประกอบด้วย กรุงเทพฯ-ภูเก็ต, กรุงเทพฯ-เชียงใหม่กรุงเทพฯ-กระบี่, กรุงเทพฯ-สมุยกรุงเทพฯ-นครพนม กรุงเทพฯ-อุดรธานี กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี กรุงเทพฯ-เชียงรายกรุงเทพฯ-ขอนแก่น กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ กรุงเทพฯ-นครศรีธรรมราช พร้อมเริ่มจำหน่ายในวันที่ 11-20 มี.ค.นี้ ผ่านทางช่องทางของสายการบินโดยตรง ได้แก่ เว็บไซต์ ,call center และเคาน์เตอร์ขายตั๋ว และสามารถเดินทางได้ในช่วงระหว่างวันที่ 11 – 17 เม.ย.2568
นอกจากนี้ได้สั่งการให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.), กรมท่าอากาศยาน (ทย.) และ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จํากัด (บวท.) และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว พร้อมเน้นย้ำว่าห้ามมีผู้โดยสารตกค้างอย่างเด็ดขาด