โต้แลก! วุฒิฯไม่รับญัตติ “นันทนา” ชงชะลอการโหวตเลือก ตุลาการศาลรธน. เดินหน้าโหวต “สิริพรรณ-ชาตรี” เป็นตุลาการศาลรธน.คนใหม่ต่อ
วันที่ 18 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งพิจารณาในวาระให้ความเห็นชอบบุคคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
โดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.พันธุ์ใหม่ เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อให้ที่ประชุมสว.ชะลอการลงมติดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้มีการตรวจสอบที่มาของสว. โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และมีการยื่นเรื่องเรียนต่อศาลรัฐธรรมนูญ และให้สว.ชุดปัจจุบันหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากดึงดันลงมติเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีปัญหา และส่งผลต่อการดำรงตำแหน่ง เป็นโมฆะ ดังนั้นเพื่อความสง่างามไม่ให้สว. ตกเป็นจำเลยของสังคม จึงขอให้ชะลอการลงมติ จนกว่าการตรวจสอบที่มาของสว. สิ้นสงสัย
ทำให้พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. โต้แย้งว่า เป็นหน้าที่ของสว. ให้การลงมติเห็นชอบ การชะลอการลงมติไม่ถูกต้อง และเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ดังนั้นขอให้ปฏิบัติตามระเบียบวาระต่อไป
ทั้งนี้พล.อ.เกรียงไกร วินิจฉัยว่าญัตติด่วนด้วยวาจาดังกล่าวไม่สามารถปฏิบัติได้ เพราะสว.มีอำนาจเต็มในการพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ดำเนินการต่อไป
ทำให้น.ส.นันทนา โต้แย้งขอให้ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติในญัตติด่วนดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการพิจารณาดังกล่าวสว.มีการโต้แย้งกันอย่างดุเดือด โดยยกรัฐธรรมนูญและข้อบังคับยืนยันการทำหน้าที่ต่อไป โดยนายบุญจันทร์ นวลสาย สว. อภิปรายโต้แย้งน.ส.นันทนา ว่า กรณีที่ว่ามีสื่อโซเชียลด่าว่า สว.ปัจจุบัน ซึ่งต่อว่าเราชิบหายเลย ศาลไหนตัดสินแล้วหรือไม่ อย่างไรก็ดีขอให้ยืนยันการทำหน้าที่ลงมติต่อไป
ขณะที่นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว.ฐานะเลขานุการ วิปวุฒิสภาฯ โต้แย้งด้วยว่า หากตนจะเกเรบ้าง ไม่คำนึงถึงอำนาจหน้าที่ และขอโหวตเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญจะยอมหรือไม่ ดังนั้นสิ่งที่ประธานวินิจฉัยถือว่าถูกต้อง และพร้อมรับการตรวจสอบ
“วันนี้ มีหน่วยงานไหนที่มีอำนาจเหนือสว. มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือการกระทำมีสิ่งไหนที่ผิดระเบียบ และรัฐธรรมนูญหรือไม่” นายวุฒิชาติ กล่าว
ทำให้น.ส.นันทนา กล่าวย้ำว่าขณะนี้สังคมมองการทำหน้าที่ของสว. และหากการลงมติดังกล่าวต่อไปอาจจะมีปัญหาได้ ซึ่งนายวุฒิชาติ โต้กลับว่า ญัตติที่เสนออยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของรัฐธรรมนูญไม่กลัวการลงมติ เพราะประชาชนแยกแยะออกในสิ่งที่สว.ดำเนินการ ซึ่งไม่ได้อยู่นอกรัฐธรรมนูญ ดังนั้นขอให้ดำเนินการตามระเบียบวาระประชุมต่อไป
อย่างไรก็ดีพล.อ.เกรียงไกร ยืนยันว่า ไม่รับเป็นญัตติ และให้ดำเนินการตามวาระต่อไป ทำให้น.ส.นันทนา ร้องขอให้การเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาดังกล่าวบันทึกการประชุมแทน ซึ่ง พล.อ.เกรียงไกร ย้ำว่าการประชุมวุฒิสภาทุกครั้งจะมีการบันทึกการประชุม และทุกคนทราบดี
จากนั้นที่ประชุมได้เข้าสู่การพิจารณาวาระตามระเบียบต่อไป ซึ่งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ของบุคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้เสนอรายงานการตรวจสอบ ที่มีพ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สว. ฐานะประธานกมธ.ฯ
โดยพ.ต.อ.กอบ กล่าวรายงานผลการตรวจสอบว่า รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด คนที่กล่าวอ้างนอกเหนือรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นเรื่องนอกจากรัฐธรรมนูญ นอกจากต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และสว.ที่เข้ามาตามระบบ ต้องทำงานตามประมวลจริยธรรมด้วย ขอความกรุณา ให้ความเคารพสภาแห่งที่ ซึ่งเป็นที่ทำงาน ที่ได้อยู่มีหน้ามีตาในสังคมเพราะสภาแห่งนี้ อย่าด้อยค่าตัวเองหรือสว. ไม่มีประโยชน์ อย่ากระเหี้ยนกระหือรือทำในสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
พ.ต.อ.กอบ กล่าวต่อว่า สำหรับบุคคลที่เสนอชื่อให้วุฒิสภาลงมติเห็นชอบ มีจำนวน 2 คน คือ น.ส.ศิริพรรณ นกสวน สวัสดี นักวิชาการรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นายชาตรี อรรจนานันท์ อดีตอธิบดีกรมการกงศุล และอดีตเอกอัครราชทูต ประจำกรุงเฮก
สำหรับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ทำงานครบวาระและต้องสรรหาแทน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรมนูญ และ นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งครบวาระดำรงตำแหน่ง เมื่อพ.ย.2567