“ศศิกานต์” เผยครม.เคาะปรับเกณฑ์คำนวณภาษีมรดกในส่วนของหุ้นนอกตลาด โดยให้คำนวณมูลค่าหุ้นที่ต้องเสียภาษีมรดกเท่ากับมูลค่าทางบัญชีในรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้รับกรรมสิทธิ์ในหุ้น
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณมูลค่าของทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีการรับมรดก (ฉบับที่..) พ.ศ. … โดยการแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การคำนวณมูลค่าหุ้นของบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
โดยให้คำนวณมูลค่าหุ้นที่ต้องเสียภาษีการรับมรดกเท่ากับมูลค่าทางบัญชีในรอบระยะเวลาบัญชีก่อนรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้รับกรรมสิทธิ์ในหุ้นนั้น เพื่ออำนวยความสะดวก และลดความซับซ้อนให้แก่ผู้ได้รับมรดกที่มีหน้าที่เสียภาษี การรับมรดก และเจ้าพนักงานประเมินในการคำนวณ และตรวจสอบการคำนวณมูลค่าหุ้น รวมทั้งจะเป็นการดำเนินการให้สอดคล้องกับหลักภาษีอากรที่ดี
สำหรับสาระสำคัญ กระทรวงการคลัง เห็นว่า การกำหนดวิธีการคำนวณมูลค่าหุ้นของบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งไปถือหุ้นในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่น เพื่อคำนวณมูลค่ามรดกในการเสียภาษีการรับมรดก โดยให้เปรียบเทียบมูลค่าทางบัญชีของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น กับมูลค่าทางบัญชีหรือราคาหุ้นของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่นรวมทุกแห่ง เป็นความพยายามที่จะให้ได้มูลค่าหุ้นที่ใกล้เคียงกันกับข้อเท็จจริงที่สุด
โดยก่อให้เกิดภาระเกินสมควรแก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษี และเจ้าพนักงานประเมินในการคำนวณ และการตรวจสอบการคำนวณมูลค่า โดยเฉพาะในกรณีที่ไปถือหุ้นในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่นจำนวนมากกว่า 1 แห่ง ซึ่งมีวิธีการคำนวณ ที่ซับซ้อนอีกทั้งกฎกระทรวงฯ ไม่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าจะนำมูลค่าทางบัญชีหรือราคาหุ้นของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่นมาใช้ทั้งหมดหรือตามสัดส่วนการถือหุ้น จึงอาจก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในกรณีที่นำมาใช้ทั้งหมด และไม่เป็นไปตามหลักภาษีอากรที่ดี
ประกอบกับอาจมีความซ้ำซ้อนในกรณีที่มูลค่าทางบัญชีของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่นได้รวมอยู่ในสินทรัพย์ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งไปถือหุ้นอยู่แล้ว จึงได้ยกร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณมูลค่าของทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษี การรับมรดก เพื่อแก้ไขหลักเกณฑ์การคำนวณมูลค่าของทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีการรับมรดกในส่วนหุ้นของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ไม่ได้จดทะเบียนใน ตลท.
ซึ่งให้ถือมูลค่าหุ้นเท่ากับมูลค่าทางบัญชีในรอบระยะเวลาบัญชี ก่อนรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้รับกรรมสิทธิ์ ในหุ้นนั้น โดยไม่ต้องพิจารณามูลค่าทางบัญชีหรือราคาหุ้นของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่น ซึ่งไปถือหุ้น ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมข้อ 3 (1) ของกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณมูลค่าของทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีการรับมรดก พ.ศ.2559 โดยเมื่อร่างกฎกระทรวงผ่านการเห็นชอบจาก ครม.แล้วก็ให้ดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
กระทรวงการคลัง ประเมินประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับในร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ดังนี้
1. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีมีภาระการปฏิบัติหน้าที่ทางภาษีลดลง โดยไม่มีภาระเกินสมควร
2. การคำนวณมูลค่าของทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีการรับมรดกมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและสามารถปฏิบัติตามได้ง่าย
3. เจ้าพนักงานประเมินสามารถตรวจสอบการคำนวณภาษีได้อย่างรวดเร็วขึ้น และอยู่ภายในกำหนดเวลา อันทำให้ผู้ที่เสียภาษีทราบอย่างรวดเร็วขึ้นด้วยว่าคำนวณภาษีถูกต้องหรือไม่
4. ผู้มีหน้าที่เสียภาษีมีความสมัครใจในการเสียภาษีเพิ่มขึ้น