‘สุชาติ’ เล็งยื่น ‘ป.ป.ช.’ สอย ‘จริยธรรม’ ต่อ หลังฟ้อง 2 สส.พรรคประชาชน ‘หมิ่นประมาท’ เรียก 50 ล้าน ปมพาดพิงเรื่องซื้อตึก ลั่น ขอโทษก็ไม่ยอม เพราะเกินเยียวยา บอก ‘แม่เลี้ยงติ๊ก’ สส.พรรค ไม่ได้ให้ข้อมูล ‘รักชนก’
วันที่ 18 มี.ค.68 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงการส่งทนายไปฟ้อง น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. และนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ในความผิดฐานหมิ่นประมาทต่อศาลอาญา กรณีกล่าวพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้งบลงทุนซื้อตึก Skyy9 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน ว่า ได้มอบทีมกฎหมายไปดำเนินการฟ้องแล้ว รูปแบบการฟ้องเป็นรูปแบบต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งจะฟ้องค่าเสียหายที่ทำให้เสียชื่อเสียง 50 ล้านบาท
นายสุชาติยืนยันว่า การฟ้องเรียกค่าเสียหายครั้งนี้ เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เพื่อป้องกันเกียรติศักดิ์ศรีของตนและคนในครอบครัว เพราะวันก่อนพ่อและแม่ตน นั่งรถเข็นมาสอบถามด้วยความเป็นห่วง
ทั้งนี้ หากศาลประทับร้องฟ้อง จะมียื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดมาตรฐานจริยธรรมต่อ เหมือนกับกรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคม ฟ้องนายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ อดีต สส.พรรคไทยศรีวิไลย์
นายสุชาติ กล่าวว่า การเป็นบุคคลสาธารณะ รัฐมนตรี สส. ต้องตรวจสอบได้หมด และตนพร้อมให้คนอื่นตรวจสอบในกระบวนการที่ถูกต้อง แต่การให้ข่าวเกี่ยวข้องกับคนอื่นในที่สาธารณะ ควรจะต้องรู้จริง ถึงจะเป็นที่ยอมรับของสังคม
ส่วนกรณีที่ข่าวว่า น.ส.รักชนก ไปพูดคุยขอข้อมูลกับ สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ นายสุชาติกล่าวว่า มีภาพนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ แต่จากการสอบถามทนางศิริวรรณ บอกว่า ไม่ได้พูดคุยให้ข้อมูลอะไรกับ น.ส.รักชนกเลย ฉะนั้น คนเราต้องพูดความจริง ควรเป็นตัวอย่างให้นักการเมืองรุ่นหลังๆ ที่จะมาสร้างบ้านเมืองในอนาคต หากมาให้ข้อมูลที่บิดเบือนเช่นนี้ เด็กรุ่นใหม่ๆ ใครจะมาเป็นนักการเมือง ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวตนไม่ได้มีความกังวลเลย เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีอะไรสืบเนื่องมาถึงตัวตน
ส่วนการฟ้องครั้งนี้เพื่อปิดปากหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า หากตนไม่ฟ้องศาลแล้วใครจะเป็นคนตัดสิน เพราะศาลเป็นที่พึ่งของผู้บริสุทธิ์ แล้วคนที่เป็นนักการเมืองหรือคนที่จะมากล่าวหาลอยๆ โดยไม่มีหลักฐานและไม่ใช่เรื่องจริง ต้องได้รับผลสุดท้ายว่าอะไรคืออะไร
เมื่อถามว่า หากคู่กรณีมาขอโทษ จะยอมหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า “คนๆ นี้มันเหนือการเยียวยา สังคมรับไม่ได้ คุณก็รู้ว่าเขามีคดีอื่นอยู่ แล้วคนอย่างผมตรงข้ามกับคนพวกนี้ล้านเปอร์เซ็นต์ และคิดว่าคนอย่างนี้ไม่ใช่คนที่สำนึกผิดได้”
ต่อมา นายสุชาติ ยังโพสต์ว่า ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง จะเดินทางไปเบิกความด้วยตัวเอง
“ผมจะเดินทางไปเบิกความเอง”
“การเป็น สส. วุฒิภาวะขนาดนี้ การจะกล่าวหาใคร มันต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน ตรวจสอบ อภิปรายในสภา หรือในการอภิปรายไม่ไว้วางใจไป จะมากล่าวหาในที่สาธารณะไม่ได้ ไม่ใช่หน้าที่ สส. ทำเกินหน้าที่”
ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.00 น. โดยผมจะเดินทางมาเบิกความด้วยตัวเอง“