วันพุธ, มีนาคม 19, 2025
หน้าแรกNEWSหนี้เสียแบงก์พุ่ง 1.2 ล้านล้านบาท บัตรเครดิตนำโด่ง 1.5 แสนล้านบาท
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

หนี้เสียแบงก์พุ่ง 1.2 ล้านล้านบาท บัตรเครดิตนำโด่ง 1.5 แสนล้านบาท

สศช.เผยหนี้ครัวเรือนไทยไตรมาส 3/67 มีมูลค่า 16.34 ล้านล้านบาท ขยายตัว 0.7% โดยหนี้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่าสูงถึง 5.6 ล้านล้านบาท ขณะที่หนี้เสียทะลุ 1.2 ล้านล้านบาท บัตรเครดิตสูงสุด 1.5 แสนล้านบาท

รายงานข่าวจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แจ้งว่า ภาวะหนี้ครัวเรือนไทยในไตรมาส 3/67 มีมูลค่า 16.34 ล้านล้านบาท ขยายตัว 0.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แบ่งเป็น หนี้เพื่อการประกอบธุรกิจ มีมูลค่า 2.9 ล้านล้านบาท คิดเป็น 17.7% ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมด หนี้เพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่า 5.6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 34.3% ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมด หนี้เพื่อยานยนต์ มีมูลค่า 1.7 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10.2%

หนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล มีมูลค่า 4.6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 28% ของหนี้ครัวเรือนทั้งหมด แบ่งเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล มีมูลค่า 3.3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 20% สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ มีมูลค่า 0.9 ล้านล้านบาท คิดเป็น 5.3% สินเชื่อบัตรเครดิต มีมูลค่า 0.5 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.8% และสินเชื่ออื่นๆ มีมูลค่า 1.6 ล้านล้านบาท คิดเป็น 9.8% ขณะที่สัดส่วนหนี้ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อยู่ที่ 89.0%

ด้านคุณภาพสินเชื่อของครัวเรือน ในไตรมาส 3/67 จากข้อมูลบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร พบว่า มูลค่าสินเชื่อส่วนบุคคลที่ค้างชำระเกิน 90 วันขึ้นไป (NPLs) มีมูลค่า 1.2 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 8.78% ต่อสินเชื่อรวม ทั้งนี้สินเชื่อบัตรเครดิตเป็นสินเชื่อที่ครัวเรือนมีการผิดนัดชำระหนี้มากที่สุด สะท้อนจากสัดส่วนหนี้ NPLs ต่อสินเชื่อรวม ที่สูงถึง 12.58% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 150,960 ล้านบาท

โดยสัดส่วน NPLs ต่อสินเชื่อรวมแยกตามประเภทสินเชื่อ มีดังนี้ สินเชื่อที่อยู่อาศัย มีสัดส่วน 4.58% ต่อสินเชื่อรวมสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ มีสัดส่วน 10.33% สินเชื่อบัตรเครดิต คิดเป็น 12.58% สินเชื่อส่วนบุคคล คิดเป็น 10.77% สินเชื่อเพื่อการเกษตร คิดเป็น 5.90% สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ คิดเป็น 12.25% สินเชื่ออื่นๆ คิดเป็น 19.79%

ทั้งนี้ที่ผ่านมารัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีมาตรการที่ช่วยเหลือหนี้บัตรเครดิต เช่น ตัดสินใจตรึงอัตราการ จ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต (Minimum Payment) ไว้ที่ 8% ถึงสิ้นปี 2568 จากเดิมเป็น 10% โดยการแก้หนี้เสีย บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคล ที่ค้างชำระเกิน 120 วัน โดยรวมแก้หนี้ในครั้งเดียวได้ หากมีเจ้าหนี้หลายแห่ง ยอดหนี้รวมไม่เกิน 2 ล้านบาท สามารถขอลดดอกเบี้ย เหลือ 3%-5% ต่อปี และเปลี่ยนเป็นผ่อนจ่ายรายงวด สูงสุด 10 ปี โดยลูกหนี้ต้องมีรายได้ อายุไม่เกิน 70 ปี และไม่เป็นบุคคลล้มละลาย

นอกจากนี้ในโครงการคุณสู้เราช่วยยังมี มาตรการที่จ่าย ปิด จบ ช่วยลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้บุคคลธรรมดาที่ NPL แต่มียอดคงค้างหนี้ไม่สูง (ไม่เกิน 5,000 บาท) โดยเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกหนี้ชำระหนี้ขั้นต่ำเพียง 10% ของยอดหนี้คงค้างเพื่อปิดหนี้ได้ทันที

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img