‘ศิริกัญญา’ บอก ยังเคืองคนเจรจาอยู่ หลังได้เวลาซักฟอกถึงตีห้าครึ่ง หวัง ‘รัฐบาล’ รักษาสัจจะ หากประท้วงจนเวลาหมด แล้ว ‘ฝ่ายค้าน’ ยังอภิปรายไม่ครบ ก็ต้องเพิ่มวัน เหตุถอยจนไม่รู้จะถอยอย่างไรแล้ว ชี้ ‘นายกฯ’ คงร้อนรนสุด รองมาก็ ‘พ่อนายกฯ’ เผย หมัดเด็ด-ไฮไลต์ มีกระจายทุกวัน หลายเวลา
วันที่ 19 มี.ค.2568 ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 24-25 มี.ค.ว่า ปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ชัดเจนมาก ที่จะทำให้ประชาชนไม่พอใจ จึงอยากให้รอฟังว่า เราจะพูดถึงเรื่องนี้ และมีหมัดเด็ดอย่างไร และต้องฝากประชาชนให้ช่วยติดตามด้วย เพราะภายหลังมีการเคาะเวลาล่าสุด ปรากฏว่า เราจำเป็นต้องอภิปรายตั้งแต่ 08.00-05.30 น.ของอีกวัน ซึ่งข้อดี คืออาจจะไม่ค่อยมีคนประท้วงในช่วงนั้น ทำให้เราสามารถอภิปรายได้อย่างเต็มที่ แต่ข้อเสียคือ ประชาชนอาจจะพลาดการรับชมสด เพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีใครอยู่หน้าทีวีอีกต่อไป นอกจากคนอภิปราย และนักข่าว
เมื่อาถมว่าตัวเด็ดๆ จะมาในช่วงเวลาไหน น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ยังบอกไม่ได้จริงๆ แต่ยืนยันว่า จะมีการกระจายไฮไลต์กันแน่นอน แต่จะอยู่ในช่วงเวลาไหน ยังบอกไม่ได้ เพราะเดี๋ยวโดนว่าเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับพยานหลักฐาน
เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่อาจจะมีการขยายเวลาอีก 1 วัน น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า หากมีการประท้วงจนรัฐบาลใช้เวลาของตัวเอง ที่รวมกับเวลาชี้แจงของนายกรัฐมนตรีจนเกิน หรือหมดแล้ว และฝ่ายค้านยังพูดไม่ครบเวลา เราก็ได้ขอคำมั่นสัญญาจากรัฐบาลแล้วว่าจะให้เราอภิปรายต่อจนครบเวลา และขอเรียกร้องกับฝ่ายรัฐบาลให้รักษาสัจจะที่เคยให้ไว้ จึงขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนร่วมกันกดดันเรื่องนี้ด้วย
“เราถอยจนไม่รู้จะถอยอย่างไรแล้ว อภิปรายถึงตีห้าครึ่ง ดิฉันยังรู้สึกเคืองคนที่ไปเจรจาอยู่เลยว่า ได้เวลาแบบนี้ได้อย่างไร” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
นางสาวศิริกัญญา กล่าวอีกว่า พรรคมีการจัดกลุ่มผู้อภิปราย ทั้งเรื่องนโยบาย การคอร์รัปชัน และปัญหาอื่นๆ แต่ไม่มีกลุ่มที่เป็นเรื่องบุคคลในครอบครัวโดยเฉพาะ แต่เราอภิปรายที่ตัวนายกรัฐมนตรี สำหรับคนที่เกี่ยวข้อง หรือคนในครอบครัวเป็นส่วนเสริมเข้ามา ดังนั้นขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า เราไม่ได้อภิปราย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เราอภิปราย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จากปัญหาที่เขาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง
เมื่อถามว่ามีการตอบโต้ผ่านโปสเตอร์อภิปราย ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นธรรมดาของการเก็งข้อสอบ ซึ่งมีการเก็งผิดบ้างเป็นเรื่องปกติ การรีบออกตัวไปหน่อย ก็อาจจะทำให้ดูร้อนตัว หรือร้อนรน เพราะยังไม่ได้มีการเปิดเผยว่าจะพูดเรื่องอะไร การออกมาพูดเรื่องหลงประเด็น เราก็งงว่า ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลกันแน่ที่หลงประเด็น
“กังวลทุกวัน ยังต้องทำงานอย่างปิดเงียบ เป็นความลับ พยายามเก็บข้อมูลให้มีคนที่ทราบน้อยที่สุด ซึ่งสื่อก็น่าจะอยากรู้ มีคำถามเข้ามาเรื่อยๆ ว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง แต่เราต้องขอเก็บแต่ความลับจริงๆ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ ตัวผู้อภิปรายเอง ก็อาจจะมีปัญหาในการโทรมาล็อบบี้ ไม่ให้ไปพูดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือพยานหลักฐานต่างๆ ที่เคยมีอยู่ ก็อาจจะหายวับไปตาก็ได้” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
เมื่อถามว่าธีมในการที่อภิปราย ดีลแลกประเทศ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ประเทศต้องสูญเสียไปเท่าไหร่ กับการที่นายกรัฐมนตรีเข้าสู่อำนาจ เพื่อให้บิดาได้กลับมาบ้าน เราต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน และการนำผลประโยชน์ประเทศมาต่อรอง ที่ทำให้เราต้องสูญเสียโอกาสไปเท่าไหร่
เมื่อถามฝ่ายรัฐบาลดูร้อนตัวใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวติดตลกว่า “อั๊วะไม่ร้อน แต่ลื้อดูร้อน เพราะในช่วงนี้มีการโปรโมทผลงานเป็นระยะ เหมือนเตรียมตัวที่จะรับการอภิปราย ซึ่งเราก็เก็งคำตอบเช่นเดียวกัน ว่ารัฐบาลจะตอบว่าอะไร ผ่านการที่เขาดูร้อนรนแบบนี้ ก็ขอบคุณที่ร้อนตัว และโชว์ผลงานใหญ่เลย”
เมื่อถามย้ำว่า คนไหนดูร้อนที่สุด น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จริงๆ คิดว่านายกรัฐมนตรีน่าจะเป็นร้อนที่สุดอยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้อภิปรายคนอื่น รองลงมาอาจจะพ่อนายกรัฐมนตรี เพราะกรณีที่เราถามว่า จะอภิปรายเรื่องนายทักษิณได้หรือไม่ แทนที่เขาจะตอบว่า ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย แต่เขากลับตอบกว่า เป็นการไม่ทำตามกติกา จึงเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังเหมือนกัน เพราะคิดว่าจะใจกว้างมากกว่านี้ มีหมัดเด็ดหลายเรื่อง รอบนี้ของจริง มีคนร้อนแน่นอน
เมื่อถามว่าคิดถูกหรือไม่ที่เลือกอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า รู้สึกว่าคิดถูกมาก เพราะตอนแรกตนก็เป็นเสียงข้างน้อย ที่ไม่อยากเปลี่ยน แต่ตอนนี้รู้สึกว่า หากพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรีคนเดียว และส่วนที่เหลือไม่ได้เอาไปต่อรองหรือหมกเม็ดอะไร พอเปิดสมัยประชุมหน้า ในเดือนก.ค.ก็รอติดตามภาคต่อไปได้เลย เพราะขึ้นใหม่แล้ว สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อีกรอบ.