วันพุธ, เมษายน 9, 2025
หน้าแรกHighlightเช็กลิสต์สินค้า 12 กลุ่มหลัก“สสว.”คาด รับผลกระทบสงครามการค้า“ทรัมป์2.0”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เช็กลิสต์สินค้า 12 กลุ่มหลัก“สสว.”คาด รับผลกระทบสงครามการค้า“ทรัมป์2.0”

สสว.ประเมิน “ทรัมป์” ขึ้นภาษีนำเข้าไทยกระทบส่งออกเอสเอ็มอีไทย สำหรับสินค้า 12 กลุ่มหลัก แนะผู้ประกอบการไทยหาตลาดใหม่-คู่ค้าในภูมิภาค-หาประโยชน์จากกฎเกณฑ์การค้าผ่านข้อตกลงการค้าเสรี (FTA)

รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) แจ้งว่า ในวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเพิ่มเติมที่กระทบกับหลายประเทศรวมถึงไทยที่จะถูกเก็บอัตราษีสูงถึง 37% มีผลตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน เป็นต้นไป จากข้อมูลการส่งออกปี 67 พบว่า SME พึ่งพาตลาดสหรัฐสูงถึง 20 % ด้วยมูลค่า 7,634 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเอสเอ็มอีมีส่วนแบ่งของการส่งออกไทยไปสหรัฐที่ 14 % โดยสหรัฐเป็นตลาดส่งออกของเอสเอ็มอีลำดับที่ 2 รองจากจีน

ขณะที่เอสเอ็มอีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 2,563 ล้านเหรียญ ทำให้เอสเอ็มอีเกินดุล 5,070 ล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เอสเอ็มอียังส่งออกไปสหรัฐมูลค่ารวม 1,440 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 39.6% สินค้าส่งออกสำคัญ 5 ลำดับแรกได้แก่ อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องจักร อัญมณีและเครื่องประดับเฟอร์นิเจอร์ และพลาสติก คิดเป็นสัดส่วน 75 % ของ มูลค่าส่งออกของเอสเอ็มอีไปยังสหรัฐทั้งหมด

สำหรับผลกระทบจากมาตรการขึ้นกำแพงภาษีครั้งนี้ สสว. ประมาณการว่ามูลค่าส่งออกของเอสเอ็มอี ไปยังสหรัฐ ปี 2568 จะลดลง 1,128 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 38,300 ล้านบาท และอาจส่งผลให้ จีดีพี เอสเอ็มอี ปี 2568 ลดลง 0.2 % จากที่ สสว. ประมาณการการขยายตัวไว้ที่ 3.5 % ทั้งนี้ ความรุนแรงของผลกระทบดังกล่าว ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองของรัฐบาลไทย รวมทั้งมาตรการตอบโต้ ของประเทศคู่ค้าอื่น ๆ

ทั้งนี้ สสว. ได้วิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ส่งออกเอสเอ็มอีในเบื้องต้นพบว่า มีสินค้า 12 กลุ่มหลัก ที่พึ่งพิงการส่งออกไปสหรัฐในระดับสูง (การส่งออกสินค้ากลุ่มนั้นไปยังสหรัฐเป็นตลาดหลักเกินกว่า 10% และมูลค่าสูงกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ) จะกระทบกับเอสเอ็มอีประมาณ 3,700 ราย ดังนี้

1.กลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้า ได้แก่ เครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เครื่องส่งวิทยุ กล้อง ถ่ายบันทึกภาพดิจิทัล และลวดเคเบิ้ล
-มูลค่าส่งออก : 2,792 ล้านเหรียญสหรัฐ
-สัดส่วน SME : 34%
-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 59%
-จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 914 ราย

2.กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ ได้แก่ พลอย และเครื่องประดับเพชรพลอยรูปพรรณ
-มูลค่าส่งออก: 758 ล้านเหรียญสหรัฐ
-สัดส่วน SME: 45 %
-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ: 19 %
-จำนวนผู้ส่งออก 885 ราย

3.กลุ่มเครื่องจักรและส่วนประกอบ ได้แก่อุปกรณ์เครื่องปรับอากาศ ก๊อก วาล์ว ส่วนประกอบเครื่องยนต์อากาศยาน
-มูลค่าส่งออก : 466 ล้านเหรียญสหรัฐ
-สัดส่วนเอสเอ็มอี : 25%
-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 52%
-จำนวนผู้ส่งออก SME : 156 ราย

4.กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ เก้าอี้ โซฟา โคมไฟ อุปกรณ์ส่องสว่าง เฟอร์นิเจอร์การแพทย์
-มูลค่าการส่งออก : 432.15 ล้านเหรียญสหรัฐ
-สัดส่วนเอสเอ็มอี : 45%
-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 68%
-จำนวนผู้ส่งออก SME : 400 ราย

5.ของทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า เช่น ข้อต่อ ลวดเกลียว สลิง ตะปู สะพานและชิ้นส่วน ประตูน้ำ เครื่องสุขภัณฑ์ ของใช้ในครัวและโต๊ะอาหาร
-มูลค่าการส่งออก : 181.07 ล้านเหรียญสหรัฐ
-สัดส่วน เอสเอ็มอี : 24%
-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ: 31%
-จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 422 ราย

6.ยานยนต์และชิ้นส่วน ได้แก่ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถพ่วงและกึ่งพ่วง
-มูลค่าการส่งออก : 116 ล้านเหรียญสหรัฐ
-สัดส่วน เอสเอ็มอี : 8%
-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 21%
-จำนวนผู้ส่งออก SME : 138 ราย

7 ของปรุงแต่งทำจากพืชผักผลไม้ ได้แก่ น้ำผลไม้ ผลไม้ ผักผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม แยม
-มูลค่าการส่งออก : 73.97 ล้านเหรียญสหรัฐ
-สัดส่วนเอสเอ็มอี: 10%
-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 14%
-จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 293 ราย

8.อะลูมิเนียมและของทำด้วยอะลูมิเนียม ได้แก่ สิ่งก่อสร้างทำด้วยอะลูมิเนียม ภาชนะอะลูมิเนียมสำหรับบรรจุก๊าซอัดหรือก๊าซเหลว และของอื่น ๆ ทำด้วยอะลูมิเนียม
-มูลค่าการส่งออก : 68.23 ล้านเหรียญสหรัฐ
-สัดส่วนเอสเอ็มอี : 55%
-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 53%
-จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 74 ราย

9.เครื่องแต่งกายถักแบบนิตหรือแบบโครเชต์ ได้แก่ เสื้อกั๊ก เสื้อผ้าของเด็กเล็ก สูท เชิ้ต ถุงมือทุกชนิด เสื้อโอเวอร์โค้ตของบุรุษ ชุดวอร์ม ชุดสกี และชุดว่ายน้ำ
-มูลค่าการส่งออก : 50.67 ล้านเหรียญสหรัฐ
-สัดส่วนเอสเอ็มอี : 17%
-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 41%
-จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 190 ราย

10.ธัญพืช ได้แก่ ข้าว
-มูลค่าการส่งออก : 42.00 ล้านเหรียญสหรัฐ
-สัดส่วนเอสเอ็มอี : 5%
-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 11%
-จำนวนผู้ส่งออกเอสเอ็มอี : 85 ราย

11.กลุ่มยางและผลิตภัณฑ์ยาง ได้แก่แผ่นยางปูพื้น อย่างกันกระแทก ท่อยางอุตสาหกรรม
-มูลค่าส่งออก 24 ล้านเหรียญสหรัฐ
-สัดส่วนเอสเอ็มอี : 16%
-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 16%
-จำนวนผู้ส่งออก เอสเอ็มอี : 121 ราย

12.กลุ่มเนื้อสัตว์แปรรูป ได้แก่ สัตว์น้ำแปรรูป จำพวก กุ้ง หอย ปู
-มูลค่าส่งออก 14 ล้านเหรียญสหรัฐ
-สัดส่วน เอสเอ็มอี : 7%
-พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ : 49%
-จำนวนผู้ส่งออก เอสเอ็มอี : 30 ราย

เพื่อรองรับมาตรการดังกล่าว เอสเอ็มอีไทยจำเป็นต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน โดยมุ่งเน้นการค้นหาตลาดใหม่และคู่ค้าในภูมิภาค รวมทั้งหาประโยชน์จากกฎเกณฑ์การค้าผ่านข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) และใช้ฐานการผลิตจากประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาษี นอกจากนี้ รัฐบาลควรให้การสนับสนุนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการลงทุน และเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน ทำให้ภาคเอกชนสามารถบริโภคได้มากขึ้น ลดการพึ่งพาการส่งออก และกระตุ้นการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม ไทยยังต้องเผชิญกับการไหลบ่าของสินค้าจากประเทศอื่น ๆ ที่แสวงหาตลาดทดแทนสหรัฐฯ ดังนั้น การเร่งสร้างมาตรการรองรับ รวมถึงการเพิ่มความตระหนักให้ผู้ซื้อพิจารณาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการขาดดุลการค้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img