วันอังคาร, เมษายน 8, 2025
หน้าแรกHighlight‘คลัง’เล็งถก‘มท.’แก้สัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ผู้รับเหมา‘ประมาทเลินเล่อ’-ยกเลิกทันที!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘คลัง’เล็งถก‘มท.’แก้สัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ผู้รับเหมา‘ประมาทเลินเล่อ’-ยกเลิกทันที!

“จุลพันธ์” เตรียมหารือมหาดไทยแก้ไขสัญญาจัดซื้อจัดจ้างในอนาคต ผู้รับเหมาที่ประมาทเลินเล่อทำให้ถึงแก่ชีวิต สามารถพิจารณายกเลิกสัญญาได้ทันที พร้อมชงมาตรการแบล็กลิสต์ ลดชั้นผู้รับเหมา เข้าครม.เร็ว ๆ นี้

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงมาตรการดูแลบริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ซึ่งพังถล่มลงมาหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้พิจารณามาตรการจัดทำบัญชีแบล็กลิสต์ หรือสมุดพกผู้รับเหมา กรณีโครงการก่อสร้างที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชน แต่การดำเนินงานต้องเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งจะต้องมีหลักฐานที่พิสูจน์ให้ได้ว่าผู้รับเหมารายดังกล่าวมีความผิดจริง โดยหน่วยงานเจ้าของโครงการจัดซื้อจัดจ้างจะต้องเป็นผู้เสนอรายงานปัญหาแก่กรมบัญชีกลาง เพื่อพิจารณายกเลิกสัญญา 

ขณะที่กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างการเสนอมาตรการที่จะกำกับดูแลและเป็นบทลงโทษแก่ผู้รับเหมาที่กระทำความผิด แบ่งเป็น 2 มาตรการ ได้แก่ 1.การลดชั้นผู้รับเหมา และ 2.มาตรการขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ ซึ่งได้ส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แล้ว และอยู่ระหว่างการรอบรรจุวาระในการประชุม ครม.

โดยมาตรการข้างต้นเป็นมาตรการที่จัดทำขึ้นจากกรณีอุบัติเหตุโครงการก่อสร้างถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ร้ายแรง จะเป็นการลดชั้นผู้รับเหมา แต่กรณีตึก สตง.ถล่ม ที่มีความเสียหายมากกว่า จะเป็นกรณีศึกษาในการปรับหลักเกณฑ์สัญญาจัดซื้อจัดจ้างต่อไปในอนาคต ภายใต้ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 เนื่องจากลักษณะสัญญาในปัจจุบันยังมีความคลุมเครือในการกำหนดบทลงโทษ ความรับผิดชอบของผู้รับเหมาที่ทำให้เกิดความเสียหายถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และการคุ้มครองแรงงาน

ทั้งนี้ในปัจจุบันสัญญาจัดซื้อจัดจ้างไม่ได้ระบุชัดว่าผู้รับเหมาที่ประมาทเลินเล่อทำให้ถึงแก่ชีวิต สามารถพิจารณายกเลิกสัญญาได้ทันที ซึ่งในอนาคตจะต้องมีการเพิ่มรายละเอียดเหล่านี้ลงไปในสัญญาด้วย ซึ่งกระทรวงการคลังจะมีการหารือกับกระทรวงมหาดไทยต่อไปเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เพื่อหาแนวทางป้องกันแก้ไขและเยียวยาในอนาคต โดยมีกรณีตึก สตง. เป็นกรณีศึกษา

โดยขณะนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ตึกถล่ม ซึ่งขีดเส้นดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์

สำหรับบริษัท “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10” บริษัทเครือข่าย “รัฐวิสาหกิจจีน” เป็นกิจการร่วมค้า ร่วมกับ “อิตาเลียนไทยฯ” รับงานก่อสร้างตึกสตง. มูลค่า 2.1 พันล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบยังพบอีกว่า บริษัทดังกล่าวในฐานะกิจการร่วมค้า เป็นคู่สัญญาหน่วยงานรัฐอย่างน้อย 15 สัญญา รวมวงเงินไม่ต่ำกว่า 8,014,764,777 บาท

- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

จุดยืน!! “กาสิโน”

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img