กก.แอลกอฮอล์ ไฟเขียวขายเหล้าสถานีหัวลำโพง ต้องขออนุญาต รมว.สธ. ย้ำสามารถจัดงานอีเวนต์ได้ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระยะสั้นไม่ได้เหมือนลานเบียร์
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 68 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ครั้งที่ 3/ 2568 ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้อนุญาตจัดกิจกรรมที่สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ในสถานีรถไฟหัวลำโพง ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ตามที่ได้รับอนุญาต โดยให้เป็นอำนาจของรมว.สาธารณสุข ในการพิจารณาอนุญาต โดยขอย้ำว่า ที่อนุญาตนั้นมีเพียงสถานีรถไฟหัวลำโพงเท่านั้น ไม่อนุญาตให้จัดที่สถานีรถไฟแห่งอื่น ซึ่งขั้นตอนต่อไป จะเป็นการจัดทำระเบียบหรือกฎหมายรอง ส่งเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป และมีผลบังคับใช้หลังจากนั้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่ทันช่วงเทศกาลสงกรานต์แล้ว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนข้อเสนอของการรถไฟแห่งประเทศไทยเรื่องการอนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้บนขวนรถไฟนั้น ยังไม่ได้มีการพิจารณาในวันนี้ แต่ก็ไม่ได้ปัดตก เพราะในคณะกรรมการยังไม่เป็นเอกภาพ จึงพิจารณาทำเฉพาะในส่วนที่เห็นร่วมกัน ยันยันว่าเราพิจารณาด้วยความรักกัน
นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า การให้ขายที่สถานีรถไฟหัวลำโพง และขายเป็นครั้งคราว โดยมาขอประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งรมว.สาธารณสุขเป็นประธาน ไม่ได้มอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย เนื่องจากที่ประชุมมีความกังวลว่าจะมีการไปอนุมัติจำนวนมาก จึงให้คณะกรรมการควบคุมฯเป็นผู้กำกับการอนุมัติ อนุญาต
“สิ่งที่อนุญาตคือสามารถจัดงานอีเวนต์ได้ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เล็กๆ น้อยๆ เป็นหลักใหญ่ ไม่ได้เหมือนลานเบียร์ที่เวลายาว 3-6 เดือน แต่จะพิจารณาในเชิงรายละเอียดว่าจะจัดกี่วัน โดยการรถไฟฯ เสนอ โดยจะต้องมีมาตรการกำกับติดตาม ไม่ใช่ใครจะเข้าไปในพื้นที่ก็ได้ ซึ่งเด็กและเยาวชนห้ามการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว” นพ.ภาณุมาศ กล่าว
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวด้วยว่า สำหรับการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. …. (เพิ่มข้อยกเว้นการขายในวันห้ามขาย) ครั้งที่ 1 หรือการอนุญาตขายเหล้า 5 วันพระใหญ่ ใน 5 พื้นที่ ระหว่างวันที่ 24 มี.ค. – 7 เม.ย. ซึ่งครบกำหนดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบข้อมูลเพื่อทำข้อเสนอต่อรมว.ต่อไป ซึ่งการรับฟังความเห็นมีทั้งออนไลน์ และออฟไลฟ์ คาดว่าจะใช้เวลาราวๆ 7 วัน.