ราคาทองคำวันนี้ร่วง 400 บาท หลังดอลลาร์แข็งค่า ส่งผลให้ทองแท่งขายบาทละ 51,500 บาท ทองรูปพรรณขายบาทละ 52,300 บาท
รายงานข่าวจากสมาคมค้าทองคำ แจ้งว่า ราคาทองคำวันนี้ร่วง 400 บาท โดยราคาทอง gold spot นิวยอร์กอยู่ที่ 3,242 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากเดิมอยู่ที่ 3,279ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมเงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.42 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งซื้อบาทละ 51,400 ขายออกบาทละ 51,500 บาท ราคาทองรูปพรรณซื้อบาทละ 50,467.64 บาท ขายออกบาทละ 52,300 บาท
รายงานข่าวแจ้งว่า สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (30 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำลดช่วงลบ เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังมีรายงานว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ หดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 14.50 ดอลลาร์ หรือ 0.43% ปิดที่ 3,319.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.23% แตะที่ระดับ 99.468 ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำลดช่วงลบ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 1 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2568 โดยระบุว่า GDP หดตัวลง 0.3% ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังจากที่มีการขยายตัว 2.4% ในไตรมาส 4/2567
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ โดยจะปรับลดในการประชุมเดือนมิถุนายน กรกฎาคม กันยายน และธันวาคม หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ หดตัวลงในไตรมาส 1/2568
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 129,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 228,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.2% ในเดือนเม.ย.