“วิโรจน์” โรยเกลือต่อ ลุยร่วมกมธ.การเศรษฐกิจ ปมตั๋วPN “นายกฯอิ๊งค์”ชี้ตั้งประเด็น นิติกรรมอำพรางหลีกเลี่ยงภาษีการรับให้หรือไม่ ท้าหากกรมสรรพากรบอกทำได้ให้ออกประกาศให้ประชาชนรับทราบยกเป็น ”ระเบียบแพทองธารโมเดล“ ด้าน “สิทธิพล” ชี้ วันนี้จะได้รับความชัดเจนว่าการใช้ตั๋วPN เป็นไปตามกฏหมายหรือไม่
วันที่ 1 พ.ค.2568 เวลา 09.30น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)พัฒนาการเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร มีนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกมธ.ฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยเชิญนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน มาให้ข้อมูลในฐานะเป็นผู้ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบการร้องเรียนการซื้อขายหุ้นโดยใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตั๋วPNมูลค่า 4,434บาท ของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ถูกมองมีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี
นายสิทธิพล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า การตรวจสอบดังกล่าเป็นผลสืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ที่มีข้อสงสัยเรื่องการซื้อขายหุ้นผ่านตั๋วสัญญาใช้เงินของนายกรัฐมนตรี กมธ.จึงเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสรรพากร สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)มาร่วมให้ข้อมูล ให้ได้ความชัดเจนว่า การกระทำดังกล่าวถูกหรือผิดกฎหมาย และตั้งใจอาศัยช่องว่างกฎหมายหลบเลี่ยงภาษีหรือไม่ อยากให้หน่วยงานราชการทำเรื่องนี้ให้โปร่งใสชัดเจน
ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า หลังจากไปยื่นหนังสือถึงกรมสรรพากรวินิจฉัยพฤติกรรมน.ส.แพทองธารที่ใช้ตั๋วPNซื้อหุ้นจากบุคคลในครอบครัว เป็นการสร้างรูปแบบซื้อขาย โดยไม่มีเจตนาซื้อขายหุ้นจริง เป็นการทำนิติกรรมอำพราง เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีการรับให้หรือไม่ ขอให้กรมสรรพากรตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน เพราะยังมีประชาชนที่กำลังจะโอนหุ้นบริษัทให้ทายาทที่มีมูลค่าเกิน 20 ล้านบาทในปีภาษี อาจจะไม่โอน เพื่อไม่ต้องชำระภาษีการรับให้
“คำถามคือ ถ้าประชาชนเอาโมเดลจากนายกฯมาทำตาม อธิบดีกรมสรรพากรต้องประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ต่อไปนี้ให้ใช้ตั๋วPN และทำแบบนายกฯ หรือจะตั้งชื่อว่า “แพทองธารโมเดล”ให้ทุกคนทำตาม แต่กรมสรรพากรต้องรับสภาพว่า นับแต่นี้เป็นต้นไปอาจไม่สามารถจัดเก็บภาษีการรับให้ได้เลย ไม่ใช่เฉพาะกรณีนายกฯ หากแต่กรมสรรพากรต้องไปดูการใช้ตั๋วPN ในวงศ์วานของนายกฯ พิจารณาทุกธุรกรรมการโอนเงินผ่านธนาคารว่า มีการชำระเงินกันจริงหรือไม่ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน หากไม่พบการชำระเงินก็วินิจฉัยได้ง่าย หรืออีกกรณีที่เทียบเคียงได้คือนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ถือหุ้นบริษัท 9แห่ง มูลค่า 4,400ล้านบาท โดยสมบูรณ์ หมายความว่า บริษัททั้งหมดจ่ายเงินเงินปันผลหรือไม่ นายกรัฐมนตรีจัดสรรเงินปันผลชำระค่าซื้อหุ้นให้แม่ พี่สาวพี่ชาย และลุง ป้าสะใภ้บ้างหรือไม่”นายวิโรจน์ กล่าว