“ภูมิธรรม” นำทีมไทยประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ครั้งที่ 17 กับ “พล.อ.เตีย เซ็ยฮา” แห่งกัมพูชา เน้นความร่วมมือแก้ไขปัญหาชายแดน อาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ส่งตัวคนไทยกลับแล้ว 200 ราย และภัยจากหมอกควัน พร้อมมองการณ์ไกล จับมือรับมือความท้าทายระดับโลก
วันที่ 1 พ.ค.68 ณ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ริเวอร์ไซด์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ราชอาณาจักรกัมพูชา ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) กัมพูชา – ไทย และคณะ ได้ร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 17 ที่ประเทศไทย
ภายหลังการประชุม นายภูมิธรรมได้แถลงผลการประชุม โดยระบุว่า การประชุม GBC ครั้งที่ 17 นี้ เป็นการสานต่อความร่วมมือระหว่างสองประเทศ โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในปีนี้ ประเด็นหลักของการหารือมุ่งเน้นไปที่การร่วมมือแก้ไขปัญหาบริเวณชายแดน รวมถึงการจัดการปัญหาหมอกควัน และการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ทั้งสองประเทศให้ความสำคัญ
ในส่วนของการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายภูมิธรรมเปิดเผยว่า ไทยได้มีการตั้งหน่วยงานพิเศษ โดยมีจเรตำรวจเป็นผู้ดูแลและประสานงานโดยตรงกับทางการกัมพูชา ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวได้นำไปสู่การส่งตัวผู้ต้องหาชาวไทยที่อยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่า 200 คน กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยแล้ว
นายภูมิธรรมกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดน และการระมัดระวังในการแก้ไขปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการหารือเป็นไปด้วยดี โดยเมื่อวานนี้ (30 เมษายน 2568) ผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศได้มีการรับประทานอาหารร่วมกัน และในวันนี้ได้มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทั้งสองฝ่าย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและความร่วมมือในการรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ ในระดับโลก
เมื่อถูกถามถึงความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการลดและปราบปรามปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ออนไลน์ สแกมส์) นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งศูนย์ประสานงานร่วมระหว่างไทยและกัมพูชา โดยมีจเรตำรวจเป็นผู้อำนวยการในการควบคุมและประสานงานอย่างใกล้ชิด ซึ่งความร่วมมือนี้ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงความร่วมมือในการแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 รวมถึงการเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในกรณีที่เกิดภัยพิบัติในพื้นที่ชายแดน
ในประเด็นเรื่องผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา นายภูมิธรรมกล่าวว่า ในเวที GBC ครั้งนี้ยังไม่ได้มีการหารือในรายละเอียด แต่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงความจำเป็นที่ภูมิภาคอาเซียนจะต้องร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ เช่น ภัยสงครามการค้า และความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจ
โดยสรุป การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ไทย – กัมพูชา ครั้งที่ 17 เป็นไปในบรรยากาศที่สร้างสรรค์และมุ่งเน้นการเสริมสร้างความร่วมมือในหลากหลายด้าน เพื่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศ