วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 8, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTSศาลไต่สวนป่วยทิพย์ ‘ก๊วนช่วย’หนาว-ระทึก!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ศาลไต่สวนป่วยทิพย์ ‘ก๊วนช่วย’หนาว-ระทึก!

ยังไม่มีความชัดเจนว่า ในวันนัดไต่สวน “ป่วยทิพย์ชั้น 14” วันที่ 13 มิ.ย. ว่าตัว “ทักษิณ ชินวัตร” จะต้องเดินทางไปที่ศาลฎีกาฯ สนามหลวงด้วยตัวเองหรือไม่ ?

หลัง ศาลฎีกาฯ มีความเห็นว่า มีประเด็นน่าสงสัยว่า การบังคับโทษ “ทักษิณ” ที่แม้จะได้รับพระราชทานลดโทษจาก 8 ปี เหลือ 1 ปี แต่ “ทักษิณ” ยังต้องรับโทษในเรือนจำอยู่ แต่สุดท้าย…ก็อย่างที่เห็นกันทั้งประเทศ “ทักษิณ” นอนชั้น 14 รพ.ตำรวจ ร่วม 6 เดือนและกลับไปอยู่บ้านจันทร์ส่องหล้า หลังได้รับการพักโทษอีก 6 เดือน จนพ้นโทษจำคุก ทำให้ “ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว”

ทำให้ศาลเห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับ “ทักษิณ” อาจไม่เป็นไปตาม “หมายจำคุก” จึงสั่ง “ไต่สวน” และให้ “อัยการสูงสุด” กับ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ” (ป.ป.ช.) ที่เคยเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “ทักษิณ” ในคดีก่อนหน้านี้จนต้องรับโทษจำคุก 8 ปี ก่อนได้รับพระราชทานลดโทษ รวมถึงให้ “ทักษิณ-ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ-อธิบดีกรมราชทัณฑ์-นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ” ส่งข้อมูล-ข้อเท็จจริงกลับมายังศาลฎีกาฯภายใน 30 วัน

อย่างไรก็ตาม…ยังเหลือเวลาอีกพอสมควร ถึงจะมีความชัดเจนว่า “ทักษิณ” ต้องไปปรากฏตัวที่ศาลฎีกาฯหรือไม่?

ลำดับแรก คาดว่า องค์คณะของศาลฎีกาฯ คงจะรอดูเอกสาร-คำชี้แจงจาก “อัยการ-ป.ป.ช.” และ “ทักษิณ” กับ “หน่วยงานข้างต้นที่เกี่ยวข้อง” ซึ่งศาลฎีกาฯมีคำสั่งให้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องมาให้ศาลฎีกาฯ

จากนั้น องค์คณะของศาลฎีกาฯคงจะพิจารณา-ปรึกษาหารือกันอีกครั้งว่า พยานหลักฐานที่ได้เป็นอย่างไร เพียงพอหรือยัง และจะต้องนัดบุคคลใดมาที่ศาลฎีกาฯ ในวันไต่สวน 13 มิ.ย.บ้าง ซึ่งคาดว่า ประมาณต้นเดือนมิ.ย. น่าจะมีความชัดเจนว่า ศาลฎีกาฯ เรียกใครมาไต่สวนบ้าง โดยเฉพาะ “ทักษิณ” จะถูกเรียกไปด้วยหรือไม่ แต่กระแสที่ออกมา ดูเหมือนหลายคนเชื่อว่า “ทักษิณ” น่าจะถูกเรียกไปไต่สวนด้วย

มองได้ว่า การที่ศาลฎีกาฯเข้ามาไต่สวนเรื่องดังกล่าว ทำให้หน่วยงานต่างๆ เช่น คณะกรรมการป.ป.ช. ที่ตั้ง “อนุกรรมการไต่สวนเรื่องชั้น 14” มาแล้วจะร่วมครึ่งปี ดูกร่อยไปเลย เพราะที่ผ่านมา การไต่สวนของป.ป.ช. ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ปรากฏออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม จนถูกมองว่า เหมือนต้องการ “ประวิงเวลาในการไต่สวนคดี”

เช่นเดียวกับ ผลการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่รักษา “ทักษิณ” ซึ่ง “แพทยสภา” ตั้ง “อนุกรรมการสอบสวน” ขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 2567 จนป่านนี้ ก็ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ ออกมา และนัดหมายประชุมแพทยสภาวันที่ 8 พ.ค.นี้ ก็ไม่มีความชัดเจนว่า คณะอนุกรรมการสอบสวนฯจะสรุปผลสอบเสนอที่ประชุมใหญ่แพทยสภาหรือไม่

แต่พลันที่ ศาลฎีกาฯเข้ามาไต่สวนปมร้อนดังกล่าวที่ “คาใจคนทั้งประเทศ” และเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อ “หลักนิติรัฐ” และ “ความน่าเชื่อถือต่อกระบวนการยุติธรรมประเทศไทย” ก็ทำให้การไต่สวน-สอบสวนของป.ป.ช.และแพทยสภา…งานกร่อยไปทันที

เพราะดูจากอำนาจในการไต่สวนแล้ว กระบวนการของ “ศาลฎีกาฯ” ที่เป็น “ศาลสูง” มีความศักดิ์สิทธิ์-ทรงพลังและรวดเร็ว เห็นผล รู้ดำรู้แดง ได้เร็วกว่า “ป.ป.ช.” และ “แพทยสภา” แน่นอน

อย่าง “ป.ป.ช.” กว่าจะสรุปผลการไต่สวน กว่าจะชี้มูลความผิด แล้วยังต้องส่งเรื่องไปยัง “อัยการ” พิจารณาอีก และต้องรอลุ้นอีกว่า “อัยการ” จะว่าอย่างไร จากนั้นก็ต้องรอกระบวนการตัดสินของ “ศาลยุติธรรม” อีก กินเวลาอีกหลายปี กว่าคดีจะถึงที่สุด เผลอๆ ถึงสิ้นปีนี้ 2568 เรื่องยังน่าจะยังไปไม่ถึงไหน อาจยังไม่มีการชี้มูลความผิดใดๆ และสำนวนอาจยังไม่ออกจาก “ตึกป.ป.ช.” ไปที่ “อัยการ” ด้วยซ้ำ

ทว่าเมื่อศาลฎีกาฯเข้ามาไต่สวนกระบวนการรับโทษของ “ทักษิณ” เองแบบนี้ และเป็น “ศาลสูง” เสียด้วย งานนี้…ไม่มีใครกล้าตุกติกแน่นอน

โดยเฉพาะ “พวกที่เกี่ยวข้อง” กับการเอาตัว “ทักษิณ” ออกจากเรือนจำไปส่งรพ.ตำรวจ และ “พวกแพทย์รพ.ตำรวจ” ที่รักษาตัว “ทักษิณ” ร่วมครึ่งปี แต่ไม่ยอมหายเสียที จากที่เคยตั้งแง่ไม่ให้ความร่วมมือกับ “ป.ป.ช.” ในการส่งเอกสารข้อมูลการรักษาตัวทักษิณ โดยอ้างว่าเป็น “ความลับคนไข้” เช่น เรื่องเวชระเบียน ที่ไม่ยอมส่งให้ “ป.ป.ช.” รวมถึง “แพทยสภา” ที่สอบจรรยาบรรณแพทย์

งานนี้ หน่วยงานไหนที่เคยดึงเรื่องไว้ คงไม่กล้าทำแบบเดียวกันนั้นกับศาลฎีกาฯ ทำให้มีข้อมูลอะไรก็คงต้องส่งหมดให้ศาลฎีกาฯ เพื่อเซฟตัวเองไว้ก่อน

กระบวนการไต่สวนของศาลฎีกาฯ มีการประเมินว่า น่าจะจบเร็ว แต่จะถึงขั้น หลังไต่สวน 13 มิ.ย.แล้ว จะออกคำสั่งใดๆ ตามมาเลยหรือไม่ หรือจะชี้ถูกชี้ผิดทันทีเลยหรือไม่ นักกฎหมายบางสำนักวิเคราะห์ว่า ไม่น่าจะออกมาเร็วขนาดนั้น อย่างน้อยก็อาจสักหนึ่งเดือนหรือหนึ่งเดือนครึ่ง ถึงจะนัดฟังคำสั่งอีกรอบ หลัง 13 มิ.ย.แต่หากไต่สวนแล้ว 13 มิ.ย.ถ้าศาลเห็นว่ายังไม่เคลียร์ ต้องเปิดไต่สวนอีก ตรงนี้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ก็อาจทำให้การนัดฟังคำสั่งของศาลฎีกาฯ อาจขยับออกไปอีกได้เช่นกัน

กระนั้น หลายฝ่ายประเมินตรงกันว่า เรื่องนี้น่าจะจบในชั้นศาลฎีกาฯ ไม่น่าจะเกินเดือนสิงหาคมปีนี้ ก็ได้รู้กันแล้วว่า ชะตากรรม “ทักษิณ” จะเป็นอย่างไร

แต่เบื้องต้น หากศาลฎีกาฯชี้ว่า การบังคับโทษไม่ชอบด้วยกฎหมาย กลุ่มแรกที่เสี่ยง จะถูกเอาผิด-โดนเช็คบิลก่อน ก็คงไม่พ้นพวก “เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร-กรมราชทัณฑ์-รพ.ราชทัณฑ์-รพ.ตำรวจ” ที่ก็คือ “กลุ่ม 12 เจ้าหน้าที่รัฐ” ซึ่งถูก “ป.ป.ช.” ตั้งอนุกรรมการไต่สวนฯนั่นเอง

จากนั้น ถึงค่อยมาดูว่า “ทักษิณ” จะได้รับผลกระทบ-ผลพวงอย่างไร หากศาลฎีกาฯชี้ออกมาในลักษณะดังกล่าว

แต่หากผลออกมาในทางที่ “เป็นคุณ” กับ “ทักษิณ” ก็คาดว่า น่าจะทำให้เรื่องปมชั้น 14 ที่ฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์กันมาตลอดร่วมสองปี อาจต้องปิดปากชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาว่า ไปวิจารณ์คำสั่งของศาลฎีกาฯ

บอกไว้เลยว่า งานนี้ “เดิมพันสูง“ สำหรับ “ทักษิณ” และ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯ ตลอดจน อนาคตของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยด้วย ถ้าผลออกมาในทางที่ “ไม่เป็นคุณ” มากนัก!

………………………………………..

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย…พระจันทร์เสี้ยว 

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img