รมว.ยุติธรรม ย้ำรัฐบาลตั้งใจแก้ปัญหาใต้ เน้นความปลอดภัยประชาชน ชี้ต้องร่วมมือทุกภาคส่วน พร้อมเผยยังไม่ชัดเจนเรื่องคณะพูดคุยสันติสุขชุดใหม่
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 พ.ค. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องชีวิต ความปลอดภัย และทรัพย์สินของประชาชน เพื่อสร้างสันติสุขที่ยั่งยืน การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญและดำเนินการด้วยสันติวิธี
พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงการลงพื้นที่เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม เพื่อรดน้ำศพตำรวจที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิด และได้พบปะกับหน่วยกำลังในพื้นที่ โดยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรก และไม่ปล่อยให้พื้นที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของฝ่ายตรงข้าม พื้นที่ต้องเป็นของรัฐ โดยอาศัยความร่วมมือจากผู้นำในท้องที่ ผู้นำศาสนา และผู้นำจิตวิญญาณ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกันถึงหลักการพื้นฐานของการปกป้องชีวิตมนุษย์ ซึ่งขณะนี้ได้มีการพิจารณามาตรการต่างๆ ไว้แล้ว
สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาว พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ดูแลหลัก และคาดว่าจะมีการหารือในรายละเอียดต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ผู้ก่อเหตุมีแนวโน้มที่จะพุ่งเป้าไปที่ชาวไทยพุทธมากขึ้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ได้รับรายงานถึงสาเหตุแล้ว แต่ขอให้มีการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์เพื่อความชัดเจน อย่างไรก็ตาม การกระทำต่อกลุ่มเปราะบางถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องของศาสนา
ในประเด็นที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้เปิดพื้นที่เจรจาโดยเร็วที่สุด พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “เราคงไม่ต้องออกทีวีเจรจา” เมื่อถูกถามย้ำถึงการเจรจาทางลับ พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า หลักสำคัญในการแก้ไขปัญหาคือการคำนึงถึงความปลอดภัยและความอยู่ดีกินดีของประชาชนเป็นหลัก รัฐบาลเคารพความคิดเห็นของฝ่ายค้าน แต่การดำเนินการของรัฐบาลต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และที่สำคัญคือต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดชะตาชีวิตของตนเอง โดยเฉพาะชาวไทยพุทธต้องมีส่วนร่วมในการพูดคุย
เมื่อถามถึงความชัดเจนเกี่ยวกับคณะพูดคุยสันติสุขฝ่ายไทย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เดิมเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นหัวหน้าคณะ แต่เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล ตนไม่ทราบว่าคำสั่งดังกล่าวมีการยกเลิกหรือไม่ ต่อข้อซักถามว่าคู่เจรจามีอำนาจตัดสินใจหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “เราอย่าไปด้อยค่าเขา เพราะการพูดคุยหากเป็นช่วงเดือนรอมฎอน ถ้าเขาบอกหยุดก็ต้องหยุด เพราะฉะนั้น เราอย่าไปด้อยค่าใคร”
ส่วนกรณีที่มีใบปลิวโจมตีว่ารัฐบาลจะออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ก่อการร้าย พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า “ไม่มีคำพูดนี้จากรัฐบาล และไม่น่าจะมีความคิดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตนไม่มีแน่นอน แต่วุฒิสภามีการพูดคุยในเรื่องนี้”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่เคยพูดถึงการเป็นเขตปกครองพิเศษ และจุดยืนของพรรคประชาชาติในเรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวี ชี้แจงว่า “ตนไม่เคยพูดถึงเรื่องเขตปกครองพิเศษ แต่พูดว่า ตนพึ่งได้ไปเขตปกครองพิเศษซินเจียง-อุยกูร์มา และบอกว่าลักษณะของเขตปกครองพิเศษนี้จะคล้ายกับภาคใต้บ้านเรา ในเรื่องของภาษาและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะปิดกั้น นอกจากนี้ คนจีนก็พูดกับคนในพื้นที่ไม่ได้ ต้องมีการแปลจาก ภาษาอุยกูร์เป็นภาษาจีน”
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความจำเป็นในการเพิ่มการพูดคุยเจรจาเพื่อรับมือกับความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “การเจรจาก็เป็นกุศโลบายหนึ่ง เพราะเราต้องยอมรับว่าคนที่ก่อเหตุเป็นคนไทยด้วยกัน ดังนั้นควรหันหน้ามาคุยกัน”