“อ.ปานเทพ” มัดตราสัง “ก๊วนช่วยทักษิณป่วยทิพย์” งัดพ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 60 และกฎกระทรวงรักษาตัวนอกเรือนจำปี 63 ระบุชัดเจน “ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำต้องเป็นผู้ป่วยทางจิตหรือเป็นโรคติดต่อเท่านั้น”
จากกรณีที่ศาลฎีกาฯมีมติเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ไม่รับคำร้องของนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสส.ประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ยื่นขอให้ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถูกตัดสินจำคุก 8 ปี แต่ได้รับการลดโทษเหลือ 1 ปี ออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (กทม.) ไปเข้ารับการรักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล ว่าผิดขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ แต่ศาลฯตัดสินใจใช้อำนาจไต่สวนเอง เห็นควรส่งสำเนาคำร้องให้โจทก์ (อัยการสูงสุด-ป.ป.ช.) และจำเลย (นายทักษิณ ชินวัตร) ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 จำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2556 และจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ของศาลนี้ แล้วโจทก์และจำเลยดังกล่าวแจ้งต่อว่าข้อเท็จจริงตามที่กล่าวอ้างในคำร้อง จริงหรือไม่ อย่างไร พร้อมกับสำเนาคำร้องให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกทม., อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนพ.ใหญ่ รพ.ตำรวจ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาของศาลว่า การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลย เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลหรือไม่ โดยศาลมีคำสั่งให้นัดพร้อมหรือนัดไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย. 68 เวลา 09.30 น.
ขณะเดียวกัน แพทยสภาที่มีการตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ สอบสวนจริยธรรมแพทย์ของรพ.ตำรวจ และรพ.ราชทัณฑ์ ที่รักษาตัวนายทักษิณ ซึ่งมีกระแสข่าวว่า ที่ประชุมใหญ่แพทยสภาจะมีการนัดประชุมวันที่ 8 พ.ค.นั้น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต แสดงความเห็นทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “อย่าถามแค่ว่ากฎกระทรวง การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ขัดหรือแย้งกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือไม่กรณีที่ศาลต้องอนุญาตเท่านั้น เพราะแม้แต่ พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 มาตรา 55 วรรคแรก และ กฎกระทรวง การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 ข้อ 2 วรรคแรก ก็ระบุชัดเจนว่า การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ต้องเป็นผู้ต้องขังที่ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิตหรือเป็นโรคติดต่อเท่านั้นด้วย”
