วันเสาร์, พฤษภาคม 10, 2025
หน้าแรกHighlight‘5 ธนาคารรัฐ’เด้งรับมติประชุมบอร์ดกนง. พาเหรดลด‘ดอกเบี้ยเงินกู้’สูงสุด 0.15%
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘5 ธนาคารรัฐ’เด้งรับมติประชุมบอร์ดกนง. พาเหรดลด‘ดอกเบี้ยเงินกู้’สูงสุด 0.15%

5 แบงก์รัฐปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงสูงสุด 0.15% ส่วนเงินฝากปรับลงเล็กน้อย 0.05 – 0.10% มีผล 14 พ.ค. 68 หลังกนง.หั่นดอกเบี้ยลง 0.25%

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จาก 2.00% เป็น 1.75% ต่อปี เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ นโยบายการเงิน และการค้าโลก ว่า ธนาคารออมสินได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยทุกประเภททั้งเงินกู้และเงินฝาก โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MOR ลดลง 0.15% ต่อปี MLR ลดลง 0.075% ต่อปี และ MRR ลดลง 0.05% ต่อปี 

ทั้งนี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้าใช้วงเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ลดเหลือ 6.345% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่ (MLR) ลดเหลือ 6.575% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้ารายย่อย (MRR) ลดเหลือ 6.545% ต่อปี โดยส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั้ง 3 ประเภทของธนาคาร (MOR / MLR / MRR) ยังคงต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 6 แห่ง 

ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีการปรับลดลงระหว่าง 0.05 – 0.10% ต่อปี ซึ่งครั้งนี้เป็นการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส. ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.15% ต่อปี ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ปรับลดลง 0.15% ต่อปี จากปัจจุบัน 6.15% ต่อปี เป็น 6.00% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับลดลง 0.05% ต่อปี จากปัจจุบัน 6.15% ต่อปี เป็น 6.10% ต่อปี 

และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ปรับลดลง 0.05% ต่อปี จากปัจจุบัน 6.545% ต่อปี เป็น 6.495% ต่อปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ จากการปรับอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวส่งผลให้ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. อยู่ในระดับต่ำสุด เมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินของรัฐอื่น

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate เหลือ 6.15% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ใช้สำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้า SMEs เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีหรือ MRR ของธนาคารพาณิชย์ นับเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงินโลกที่ปรับสูงขึ้นจากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าประเทศเศรษฐกิจหลักและแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย รวมทั้งช่วยกระตุ้นการเติบโตของภาคธุรกิจไทย 

นอกเหนือจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate เป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 2567 EXIM BANK ยังมอบสิทธิประโยชน์แก่ลูกค้าชั้นดีที่ร่วมเติบโตมากับ EXIM BANK ด้วยส่วนลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษถึง 1.00% ต่อปี เริ่มต้น 3.10% ต่อปี สำหรับลูกค้าที่แสดงความจำนงภายในวันที่ 31 พ.ค. 2568 และเบิกกู้ระหว่างเดือนมิ.ย.-ส.ค. 2568 

นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  กล่าวว่า SME D Bank ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ได้แก่ ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate : MOR)  ลด 0.15% จาก 7.55% ต่อปี ลดลงเหลือ 7.40%ต่อปี สำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate : MRR) ลด 0.075%  จาก 7.65% ต่อปี ลดลงเหลือ 7.575% ต่อปี และ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำ (Minimum Loan Rate : MLR) ลด 0.05% จาก 7.30% ต่อปี เหลือ 7.250% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 2568  เป็นต้นไป เพื่อช่วยลดภาระให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อีกทั้ง ช่วยกระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงที่ยังมีปัจจัยท้าทายจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ 

นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า บสย. พร้อมขานรับนโยบาย ล่าสุดได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ลง 0.05% ต่อปี คงเหลือ 5.85% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุด เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ลูกหนี้ที่ถูกจ่ายเคลมอย่างต่อเนื่อง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป  ซึ่งถือเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของปี จากเมื่อต้นปี บสย. ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ลง 0.15% ต่อปี คงเหลือ 5.90% ต่อปี ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา 

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img