เตรียมตัวเซอร์ไพรส์! หมอเจษฎ์เปิดเผย 5 วิธีลดความดันที่คุณคาดไม่ถึง! ง่ายกว่าที่คิด แถมไม่ต้องพึ่งยา! อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง?
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ “หมอเจด” ให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางการลดความดันโลหิตสูงด้วยการปรับพฤติกรรม โดยระบุว่า แม้การทานยาจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่มีความดันสูงตามคำแนะนำของแพทย์ แต่ก็มีหลายคนที่สอบถามถึงวิธีอื่น ๆ ที่จะช่วยลดความดันได้ ซึ่งการปรับพฤติกรรมอย่างถูกวิธีก็เป็นอีกทางเลือกที่สามารถช่วยให้ความดันดีขึ้นได้จริง เพียงแค่ทำตาม 5 วิธีดังนี้
อย่างไรก็ตาม นพ.เจษฎ์ ได้ย้ำเตือนผู้ที่กำลังทานยาลดความดันโลหิตอยู่ว่า “ห้ามหยุดยาเองเด็ดขาด” เนื่องจากการหยุดยาเองอาจทำให้ความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้นจนเป็นอันตรายได้ โดย 5 วิธีที่ช่วยลดความดันโลหิตแบบไม่ต้องใช้ยามีดังนี้
ลดเค็มแบบจริงจัง ไม่ใช่แค่ไม่เติมเกลือ: นพ.เจษฎ์ อธิบายว่า อาหารไทยส่วนใหญ่มีโซเดียมแฝงอยู่มาก ทั้งน้ำปลา ซีอิ๊ว ซอสหอยนางรม กะปิ ปลาร้า ลูกชิ้น ไส้กรอก หมูยอ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และอาหารกล่องพร้อมทาน ซึ่งมีโซเดียมสูงเกินกว่าปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน (ไม่เกิน 2,000 มก. หรือเกลือ 1 ช้อนชา) โดยแนะนำให้งดของแปรรูปทุกชนิด 30 วัน ลองชิมอาหารก่อนปรุง ใช้สมุนไพรไทยแทนซอสปรุงรส ใช้น้ำมะนาวแทนน้ำปลา และหากจำเป็นให้ใช้เกลือโพแทสเซียมแทนเกลือโซเดียม
เพิ่มโพแทสเซียม แมกนีเซียม และใยอาหารจากพืชเป็นหลัก: การมีโพแทสเซียมและแมกนีเซียมเพียงพอจะช่วยให้กล้ามเนื้อรอบหลอดเลือดคลายตัว ลดความตึงตัวของเส้นเลือด และลดอัตราการเต้นของหัวใจ โดยอาหารที่ควรเพิ่ม ได้แก่ ผักใบเขียวเข้ม ผลไม้ที่โพแทสเซียมสูง (กล้วย ฟักทอง อะโวคาโด) ถั่วและธัญพืชไม่ขัดสี หากทานไม่พออาจเสริมแมกนีเซียมไกซิเนต 300–400 มก./วัน
ลดน้ำตาลและไขมันเลว เติมไขมันดีให้พอ: ระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือไขมันอักเสบจากอาหารทอดจะทำให้ผนังหลอดเลือดแข็งตัวและตีบแคบลง เพิ่มความเสี่ยงความดันสูง ควรลดของทอด เบเกอรี่ มาการีน ลดน้ำตาลในเครื่องดื่ม ของหวาน และผลไม้หวานจัด เลือกทานไขมันดี เช่น ปลา (แซลมอน ปลาทู ปลาช่อน) อะโวคาโด ถั่วเปลือกแข็ง ใช้น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะพร้าวในการปรุงอาหาร (ไม่ทอดซ้ำ) และอาจเสริมโอเมก้า-3 (EPA+DHA 800–1,000 มก./วัน)
เดินเร็วทุกวัน วันละ 30 นาทีขึ้นไป: การเดินเร็วต่อเนื่องเพียงวันละ 30 นาที สามารถลดความดันได้เฉลี่ย 5–10 มม.ปรอท ภายใน 4–8 สัปดาห์ โดยควรเดินในระดับที่ยังพูดได้แต่เริ่มเหนื่อย และเดินต่อเนื่อง
นอนหลับให้ลึก และจัดการความเครียด: การนอนไม่พอหรือเครียดจะทำให้ระดับฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ความดันสูงขึ้น ควรเข้านอนก่อน 22.00 น. ลดคาเฟอีนหลังบ่ายสอง ฝึกหายใจลึก ๆ ก่อนนอน และหลีกเลี่ยงการเล่นโทรศัพท์หรืออ่านข่าวเครียด ๆ ก่อนนอน
นพ.เจษฎ์ ย้ำว่า หากต้องการลดความดันโดยไม่ต้องพึ่งยา ควรลองปรับพฤติกรรมตาม 5 วิธีดังกล่าว พร้อมทั้งหมั่นเช็กความดันโลหิตด้วยตนเอง และปรึกษาแพทย์ที่ดูแลเพื่อติดตามผลลัพธ์อย่างใกล้ชิด ผู้ที่มีข้อสงสัยสามารถแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวได้