เอกชน-นักวิชาการประสานเสียงสหรัฐฯ-จีน บรรลุข้อตกลงลดภาษีนำเข้าระหว่างกันเป็นระยะเวลา 90 วันส่งสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจโลก-ลดความตึงเครียดทางการค้า
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ที่ได้บรรลุข้อตกลงลดภาษีนำเข้าระหว่างกันเป็นระยะเวลา 90 วันว่า ส่งสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจโลกแและลดความตึงเครียดทางการค้า โดยไทยในฐานะพันธมิตร และหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ของสหรัฐฯ มาเป็นระยะเวลานาน จำเป็นต้องเร่งเดินหน้าเตรียมความพร้อมในการเจรจาและนำเสนอข้อมูลผลักดันโอกาสทางการค้าภายในเดือนนี้
โดยภาคเอกชนร่วมจัดทำข้อเสนอที่ดี (Good Package) ของประเทศกับภาครัฐ ส่วนของสินค้าและบริการ เพื่อใช้ในการเจรจาเปิดตลาดและสร้างความได้เปรียบทางเศรษฐกิจในเวทีการค้าระหว่างประเทศต่อไป วอนรัฐบาลไทย เร่งนัด เพื่อไม่ให้เกิดสุญญากาศของการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ พร้อมสร้างโอกาสในการค้า การลงทุนเพิ่มด้วย
ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า ผลเจราจาครั้งนี้ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและการค้าโลกระยะสั้น เพราะนโยบายการขึ้นภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ผ่านมาเป็นความพยายามแก้ไขปัญหาการขาดดุลทางการค้าของสหรัฐฯ
นอกจากนี้การประกาศขึ้นภาษีในอัตราสูงกับเกือบทุกประเทศทั่วโลกส่งผลกระทบ ต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า จึงเป็นเหตุผลให้สหรัฐฯ ต้องการเร่งบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับประเทศต่างๆ โดยเร่งด่วน
ส่วนไทยยังไม่ได้มีการเจรจากับสหรัฐฯ ซึ่งความไม่แน่นอนนี้อาจส่งผลให้นักลงทุนชะลอการตัดสินใจลงทุน รอดูสถานการณ์ว่าอัตราภาษีจะปรับเปลี่ยนอย่างไรในอนาคต ดังนั้นไทยควรเร่งเจรจากับสหรัฐฯ โดยเร็ว เนื่องจากประเทศที่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ก่อนจะได้เปรียบในแง่ของความสามารถในการแข่งขันทางการค้า
สำหรับอัตราภาษีตอบโต้ที่สหรัฐฯเก็บกับประเทศในอาเซียน มีอัตราดังนี้ กัมพูชา 49% ลาว 48% เวียดนาม 46% เมียนมา 44% ไทย 36% อินโดนีเซีย 32% มาเลเซีย 24% บรูไน 24% ฟิลิปปินส์ 17% สิงคโปร์ 10%
