รมว.ยุติธรรม ซัด สว. ไร้เกียรติ ปมไม่รับหมายเรียก DSI! ย้ำชัด DSI ทำตาม กกต. – ปัดข่าวลือเกมการเมืองล้มรัฐบาล!
เมื่อวันที่ 13 พ.ค.พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นส่วนหนึ่ง ได้ดำเนินการออกหนังสือเรียกให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มารับทราบข้อกล่าวหาในคดีที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วการเลือกตั้ง สว. โดยชี้แจงว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการของ กกต. ซึ่งดีเอสไอเข้าร่วมในฐานะคณะอนุกรรมการ และระเบียบวิธีพิจารณาอาจมีความแตกต่างจากประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่ สว. บางท่านประกาศว่าจะไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า ต้องพิจารณาตามวิธีการสอบสวนของ กกต. โดยดีเอสไอเป็นหน่วยงานที่ กกต. มอบหมายให้เข้าร่วมการสอบสวน และการทำงานจะอ้างอิงกฎหมายคนละส่วน แต่เป็นการดำเนินงานควบคู่กันไป เนื่องจากถือเป็นคดีพิเศษ
ในประเด็นที่มี สว. ระบุว่า ดีเอสไอมีศักดิ์ต่ำกว่าและจะไม่เข้ารับทราบข้อกล่าวหานั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ถ้าเป็นคนที่มีวุฒิภาวะ คงไม่กล่าวเช่นนั้น เพราะในเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค รัฐธรรมนูญให้ความคุ้มครอง โดยปกติแล้ว ผู้ที่มีเกียรติย่อมให้เกียรติผู้อื่นก่อน” เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามย้ำถึงการแสดงความเห็นดังกล่าวผ่านสื่อ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตนเองไม่ได้ยินด้วยตนเอง จึงต้องขออภัย
ส่วนคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของเกมการเมืองในเรื่องนี้ พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า รัฐมนตรีและกระทรวงยุติธรรมดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีอำนาจหน้าที่อื่นใด แม้แต่การกำหนดนโยบายก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสอบสวนที่ต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน ยึดหลักนิติธรรม และบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่มีอิทธิพลใดอยู่เหนือกฎหมาย และกฎหมายต้องไม่ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือสิทธิตามกฎหมาย นอกจากนี้ การสอบสวนยังต้องอาศัยหลักวิชาการ เช่น การพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และการใช้เทคโนโลยีในการสืบสวน
กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของดีเอสไอ โดยเฉพาะการนำหมายไปติดที่บ้านพัก สว. พร้อมสื่อมวลชน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องสอบถามไปยัง กกต. เนื่องจากดีเอสไอปฏิบัติงานภายใต้การมอบหมายของ กกต. เท่านั้น
เมื่อถามถึงผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “คงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะรัฐมนตรีมีความสัมพันธ์อันดี และรัฐบาลได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะสร้างหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง จึงเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ดำเนินการไปนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งใคร และเป็นไปตามพยานหลักฐาน”
สำหรับความคืบหน้าของการรายงานผลการสอบสวนจากคณะอนุกรรมการที่มีดีเอสไอร่วมอยู่ด้วย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ปัจจุบันมีกฎหมายกำหนดระยะเวลาการทำงานที่ชัดเจนเพื่อป้องกันความล่าช้า
ในประเด็นการเรียก สว. มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กกต. จะมีกฎหมายและกระบวนการของตนเอง ส่วนในกรณีของดีเอสไอ ต้องสอบถามไปยังอธิบดีดีเอสไอ เนื่องจากทราบว่าอาจมีการดำเนินคดีในข้อหาอื่นอีกด้วย เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สว. จะต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาทั้งจาก กกต. และดีเอสไอ ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า ดีเอสไอ ดำเนินการในลักษณะของการสอบสวนในฐานะคดีพิเศษ ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ และผลจะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน