รมว.ยุติธรรม เผยเคารพคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ยืนยันพร้อมชี้แจงทุกข้อกล่าวหา ย้ำไม่เคยแทรกแซงการทำงานของ กกต. และ DSI
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 14 พ.ค. ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ว่า “เราเคารพศาล และไม่ขอลงรายละเอียด เนื่องจากยังไม่เห็นคำร้องที่เป็นประเด็นโดยตรง ทราบเพียงจากรายงานข่าวว่ามีการร้องเรียนเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 14 พ.ค. อย่างไรก็ตาม การเคารพคำสั่งศาลถือเป็นหลักสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งของหลักนิติธรรม และนำไปสู่การตรวจสอบข้อเท็จจริง”
พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงข้อกล่าวหาเรื่องการใช้อำนาจครอบงำและแทรกแซง กกต. ในการตรวจสอบการเลือก สว. ว่า “ส่วนตัวยังไม่เห็นรายละเอียดในประเด็นนี้ แต่โดยทั่วไป การได้รับเรื่องร้องเรียน ศาลจะให้โอกาสเราทำหนังสือชี้แจง ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่จะได้อธิบายข้อเท็จจริง และที่ผ่านมา ตนไม่เคยหารือกับ กกต. ในเรื่องดังกล่าว ส่วนการทำงานของ DSI ก็เป็นไปตามปกติ การที่ศาลมีคำสั่งเช่นนี้ ตนมองว่าเป็นเรื่องดี ที่จะสนับสนุนให้เกิดความเคารพ และสร้างความเข้มแข็งของหลักนิติธรรม โดยเฉพาะในเรื่องการตรวจสอบที่โปร่งใส” พ.ต.อ.ทวี กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาไม่ได้มองว่าคำสั่งศาลเป็นความเสียหาย และจะรอหนังสือแจ้งจากศาลเพื่อทำคำชี้แจงต่อไป ยืนยันว่าพร้อมชี้แจงข้อกล่าวหาเรื่องการครอบงำ เนื่องจากเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และรัฐมนตรีไม่มีอำนาจเข้าไปก้าวก่ายคดีอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงผลกระทบต่อการสืบสวนคดีฮั้ว สว. พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “กระบวนการสืบสวนจะไม่หยุดชะงัก เพราะรัฐมนตรีไม่ได้มีอำนาจสั่งการให้คดีเดินหน้าหรือถอยหลังอยู่แล้ว และเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนโดยอิสระ รวมถึง กกต. ก็เป็นองค์กรอิสระเช่นกัน”
ส่วนกรณีที่ถูกมองว่าการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเป็นการส่งสัญญาณทางการเมือง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ และเป็นเรื่องดีที่ศาลจะเปิดโอกาสให้เราชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งตนพร้อมที่จะปฏิบัติตาม และรอฟังคำวินิจฉัยของศาลต่อไป ส่วนการดำเนินงานของสำนวนคดี ก็เป็นไปตามกฎหมาย ถึงแม้จะมี รมว.ยุติธรรม ก็ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซง หรือควบคุมคดีได้”
สำหรับความคืบหน้าของคดีฮั้ว สว. ในส่วนของ DSI โดยเฉพาะข้อหาอั้งยี่และฟอกเงิน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป ไม่มีคำสั่งให้ชะลอ และไม่กระทบต่อกรอบระยะเวลาการทำงาน”
เมื่อถามว่ามองว่าคำสั่งศาลเป็นการสกัดกั้นการตรวจสอบหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “ต้องเคารพศาล และไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ ขอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน”
ส่วนกรณีที่ สว. บางส่วนมองว่าคำสั่งศาลดังกล่าวสะท้อนว่า รมว.ยุติธรรม “แหกปาก ทำสังคมเกลียดชัง สว.” พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “ตนไม่ได้ยินใครกล่าวเช่นนั้น แต่สังคมปัจจุบันมีความตื่นตัว และทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น การที่ศาลมีคำสั่งในลักษณะนี้ ถือเป็นเรื่องดีที่จะได้สร้างความกระจ่างในประเด็นที่มีความขัดแย้ง และตนพร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลภายใน 15 วัน”
ในส่วนของอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแล DSI นั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “หากเป็นเรื่องทางกฎหมายที่ต้องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี จะมีผู้รักษาราชการแทน ซึ่งคาดว่าจะเป็น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี”
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “ยังไม่ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี เนื่องจากวันนี้มาประชุมกับผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม”
ส่วนกรณีที่มีการมองว่าประเด็นการตรวจสอบ สว. เป็นความขัดแย้งทางการเมือง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “การทำงานของกระทรวงยุติธรรมเป็นไปตามกรอบกฎหมาย โดยไม่ได้คำนึงถึงประเด็นทางการเมือง และไม่ควรนำประเด็นทางการเมืองมาเกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม เพราะกระบวนการยุติธรรมต้องอยู่บนหลักนิติธรรม และกฎหมายต้องคุ้มครองทุกคนอย่างเท่าเทียม การใช้กฎหมายไปในทางที่มิชอบเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้” พ.ต.อ.ทวี กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองไม่กังวลหากศาลมีคำวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะเชื่อมั่นว่าได้ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต และพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงได้ทุกประเด็น รวมถึงไม่กังวลต่อการปรับคณะรัฐมนตรีที่อาจตามมา
