วันศุกร์, พฤษภาคม 16, 2025
หน้าแรกHighlight‘นิกร’คาดศาลชี้ทำประชามติแก้รธน.3ครั้ง แนะรัฐบาลถอนร่างแก้ไขฯที่มีปัญหาออก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘นิกร’คาดศาลชี้ทำประชามติแก้รธน.3ครั้ง แนะรัฐบาลถอนร่างแก้ไขฯที่มีปัญหาออก

“นิกร” ประเมิน “ศาลรธน.” ชี้ขาดทำประชามติแก้รธน.3 ครั้ง แนะรัฐบาลเตรียมพร้อมถอนร่างแก้ไขรธน.ที่มีปัญหาออกไป ปรับปรุงเป็นฉบับพรรคร่วม กางปฏิทินตั้งไข่ ส.ส.ร. ได้ หากยุบสภา ต้องเซ็ตซีโร่กันใหม่

วันที่ 15 พ.ค.2568 ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ฐานะกรรมการเพื่อพิจารณาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญ 2560 แถลงที่รัฐสภา ต่อกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกให้พยานผู้เชี่ยวชาญทำความเห็นต่อประเด็นการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ว่า  ตนเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาในกรณีดังกล่าวและมีคำวินิจฉัยที่ไม่ช้าไปกว่าการเปิดสมัยประชุมสภาฯ ในเดือน ก.ค.นี้ ทั้งนี้ตนประเมินในความเป็นไปได้ของคำวินิจฉัยอาจเกิดขึ้นได้ 2 ทาง คือ 1. ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ 2 ครั้ง ซึ่งมีผลให้สภาฯ สามารถเดินหน้าพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ​ที่เสนอต่อรัฐสภาได้ โดยปัจจุบันมี  2 ฉบับ เสนอโดยพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน อย่างไรก็ดีตนมองว่าแนวทางนี้จะเป็นไปได้น้อย ขณะที่ 2. ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ว่าต้องทำประชามติ 3 ครั้ง ดังนั้นในกระบวนการอาจต้องรอให้ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ฉบับแก้ไข  ให้มีผลบังคับใช้ในช่วงเดือน ก.ย. นี้ก่อน ส่วนตัวมองว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอต่อสภาฯ จะเป็นประเด็นที่ทำให้ไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ได้ เพราะเนื้อหานั้นมีปัญหา ดังนั้นตนขอเสนอให้ถอนร่างแก้ไขเพื่อให้พรรคร่วมรัฐบาลร่วมแสดงความเห็น ปรับปรุง และแสดงความสามัคคีก่อนเสนอต่อรัฐสภาอีกครั้ง

“ผมเชื่อว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ทำประชามติ 3 ครั้งมีโอกาสเป็นไปได้ 60% หากเป็นเช่นนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้ง 2ฉบับ ต้องถอนออกโดยอัตโนมัติ ผมมองว่าเป็นโอกาสที่จะแก้ไขเนื้อหาของมาตรา 256 ให้เป็นที่ยอมรับร่วมกันและเขียนรายละเอียดให้มี สสร. เพื่อให้กระบวนการเดินหน้าได้ต่อไป แม้ว่ารัฐบาลปัจจุบันจะอยู่ไม่ถึงการได้มาของสสร. เพื่อทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” นายนิกร กล่าว

เมื่อถามถึงการประเมินกรอบเวลาของกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญหลังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ นายนิกร กล่าวว่า ประเมินตามนี้ว่ากฎหมายประชามติ ออกเดือนก.ย. หลังจากนั้นจะมีกระบวนการ 90 วัน ดังนั้นเดือน ม.ค. 2569 ทำได้ครั้งแรก และเชื่อว่าจะผ่านเพราะใช้เสียงตัดสินแบบข้างมากธรรมดา หลังจากนั้นต้องเป็นกระบวนการยื่นแก้ไขมาตรา 256 คาดว่าจะใช้เวลาพิจารณา 3 เดือน ก่อนจะเข้าวาระสอง จากนั้นทำประชามติ  และเข้าวาระสาม และนำไปประชามติอีกครั้ง  เบื้องต้นตนเชื่อว่ารรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข มาตา 256 จะมีผลและบังคับใช้ได้ทันในเดือน พ.ค.2570

เมื่อถามว่าหากเกิดกรณียุบสภาฯ ร่างกฎหมายประชามติจะเป็นอย่างไร นายนิกร กล่าวว่า  ทุกอย่างเกิดขึ้นทั้งที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้เพราะขณะนี้การเมืองสภาฯ อยู่มาครบ 2 ปีแล้ว ทั้งนี้การเกิดหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งนี้มีประเด็นที่คาบเกี่ยวกับการพิจารณางบประมาณรายจ่าย ปี2569

“การเมืองอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ควรเตรียมให้พร้อม หากยุบสภา เรื่องแก้รัฐธรรมนูญต้องกลับไปรณรงค์กันใหม่ในการเลือกตั้งหน้า ทั้งนี้ผมอยู่ในฝ่ายที่มีความหวัง น่าจะประคองกันไปได้ จนถึงเวลา และหวังว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะเกิดขึ้นได้ เพราะปัญหาที่เกิดปัจจุบันล้วนมาจากเนื้อในของรัฐธรรมนูญ หากไม่แก้ปัญหาจะถูกซ้ำเติมและไปไม่ได้ ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับจะลดแรงกดดันของสังคมได้”นายนิกร กล่าว

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img