วันอาทิตย์, พฤษภาคม 18, 2025
หน้าแรกCOLUMNISTS‘ธรรมนัส-กล้าธรรม’สยายปีกใต้เงา‘พท.’ ‘คลังกระสุน’พร้อม-เดิน‘เกมดูด’เก็บสส.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘ธรรมนัส-กล้าธรรม’สยายปีกใต้เงา‘พท.’ ‘คลังกระสุน’พร้อม-เดิน‘เกมดูด’เก็บสส.

สัปดาห์ที่ผ่านมา “รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า-พรรคกล้าธรรม” โชว์ “พลังดูด” นักการเมือง-ส.ส.พรรคอื่น เข้าพรรคกล้าธรรม…2 รอบ

ทั้งการดึง “น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์” สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน ให้เข้าสังกัด พรรคกล้าธรรม แบบไม่เป็นทางการ ด้วยการที่ยังเป็นสส.พรรคส้ม แต่นับจากนี้จะมาอยู่กับพรรคกล้าธรรม หลังประกาศแยกทางกันเดินกับพรรคประชาชนเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลส่วนตัว เพราะทำงานร่วมกับพรรคต่อไปไม่ได้ โดยที่พรรคประชาชน จะไม่มีการขับออกจากสมาชิกพรรค ก็เลยเป็นเหมือน “สส.งูเห่า” ไปโดยปริยาย

และเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เปิดห้องอาหารจีน โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน เพื่อเปิดตัวการดึง “น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ” อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ “เก่ง-การุณ โหสกุล” อดีต สส.กทม พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม

แม้ทั้งสองคน จะไม่ได้เป็นสส.ในปัจจุบัน แต่ชื่อชั้น หากลงสมัครสส.เขต กทม. ก็ถือว่า ส่งลงชิงชัยให้พรรคกล้าธรรม พอได้ลุ้นได้มีแต้มพอสมควร

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ-การุณ โหสกุล

อย่าง “นอ.อนุดิษฐ์” ก็มีดีกรี “อดีตรมว.ไอซีที” ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร-อดีตสส.กทม.เขตสายไหม สามสมัย-อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ที่ก็ชัดเจนว่า ได้ดิบได้ดี ก็เพราะ “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ดันให้สุดตัว สมัยเป็นอดีตเจ้าแม่ กทม.ของไทยรักไทย-พลังประชาชน-เพื่อไทย

ขณะที่ “เก่ง-การุณ” ก็เป็น อดีตสส.ดอนเมือง สองสมัย-อดีต สก.ดอนเมือง ที่ก็มีฐานเสียงในพื้นที่ระดับหนึ่งและ “ภรรยา” ก็ยังเป็น สก.ดอนเมืองในปัจจุบัน ซึ่ง “เก่ง-การุณ” ก็เป็นอดีตเด็กปั้นคุณหญิงสุดารัตน์ เช่นกัน

ทั้ง “อนุดิษฐ์” และ “การุณ” ออกจากพรรคเพื่อไทยไปร่วมก่อตั้งพรรค “ไทยสร้างไทย” กับ “คุณหญิงสุดารัตน์” ในการเลือกตั้งปี 2566 แต่ก็อย่างที่เห็น ทุกพรรคที่ลงชิงชัย ในกทม. แพ้กระแส “ก้าวไกล” ราบคาบ

“ไทยสร้างไทย” ที่เคยหวังจะได้สส.เขตกทม.อย่างน้อย 2-3 ที่นั่ง ก็ไม่ได้สส.สักคน และหลังจาก “ก้าวไกล” ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งสำเร็จ ทำให้ “ไทยสร้างไทย” กลายเป็นพรรคฝ่ายค้าน และเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ “สส.ในพรรคก็โดนดูด-ซื้อตัวไปหลายคน” กลายเป็น “สส.งูเห่า” มาร่วมสองปี

ก็ขนาด “ฐากร ตัณฑสิทธิ์” อดีตเลขาธิการพรรค-อดีตเลขาธิการ กสทช.ยังเผ่น ไม่ร่วมงานการเมืองกับ “ไทยสร้างไทย” มาร่วมสองปีแล้ว จนตอนนี้ “คุณหญิงสุดารัตน์” เหลือสส.ในพรรคจริงๆ แค่คนเดียวคือ “ชัชวาล แพทยาไทย” สส.ร้อยเอ็ด จากที่จริงๆ พรรคมีสส.ในสภาฯ 5 คน

แล้วมาวันนี้ “ธรรมนัส-กล้าธรรม” ก็มาดึงคีย์แมนพรรคในกทม.ไปอีกสองคน หลังก่อนหน้านี้ “น.ต.ศิธา ทิวารี” อดีตเลขาธิการพรรค ก็ลาออกไปนานแล้ว เลยทำให้ “ปฏิบัติการดูด-ทุบไทยสร้างไทย” ของ “ธรรมนัส” ที่ถูกมองว่าเป็น “พรรคสาขาของทักษิณ-เพื่อไทย” คงยิ่งสร้าง ความเจ็บแค้น ให้ “คุณหญิงสุดารัตน์” ที่มีต่อ “ทักษิณ ชินวัตร” มากยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่า

และข่าวว่า “ธรรมนัส” ก็ยังมี “เปิดดีล” กับ “สส.เขตอีกหลายคน” ทั้งกับ “พรรคประชาชน-พรรคพลังประชารัฐ-พรรครวมไทยสร้างชาติ” หรือแม้แต่กับ “พรรคภูมิใจไทย” ก็ลือกันว่า มีสส.บางจังหวัด ที่ไม่ค่อยพอใจการบริหารงานพรรคของ “เนวิน ชิดชอบ” และ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ก็มีการคุยๆ ไว้บ้างแล้วกับ “ธรรมนัส” เพียงแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร เพราะยังเหลือเวลาในการตัดสินใจพอสมควรอีกร่วมสองปี จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง หากไม่มีการยุบสภาฯเสียก่อน

อย่างในส่วนของ “พลังประชารัฐ” ที่ตอนนี้มีสส.เขตประมาณ 19 คน ข่าวบอกว่า “ธรรมนัส” มีการตกลงพูดคุยกับบางคนไว้แล้ว ว่าเลือกตั้งเมื่อไหร่-ย้ายมาแน่ แต่ตอนนี้ขอเป็น ลูกพรรคบ้านป่ารอยต่อฯ ไปก่อน เพราะเกรงใจ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” ซึ่งกลุ่มนี้น่าจะเป็นสส.เขตภาคใต้

สุชาติ ชมกลิ่น

ขณะที่ “รวมไทยสร้างชาติ” ก็มีการจับตามองกันหลายคน เช่น ปีกของเสี่ยเฮ้ง “สุชาติ ชมกลิ่น” รมช.แรงงาน ที่แม้ก่อนหน้านี้อาจไม่ถูกกับ “ธรรมนัส” มาก่อน สมัยอยู่พลังประชารัฐด้วยกัน แต่ข่าวบางกระแสว่า “เคลียร์ใจกันแล้ว” แต่ “สายเสี่ยเฮ้ง” กำลังรอดูสถานการณ์ในพรรครวมไทยสร้างชาติก่อน

เพราะ “เสี่ยเฮ้ง” รู้ดีว่า “รวมไทยสร้างชาติ” เลือกตั้งสมัยหน้า เมื่อไม่มี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นจุดขายเหมือนตอนเลือกตั้งปี 2566 กระแสพรรคคงยุบลงไปเยอะ อีกทั้ง “นายทุนพลังงานคนดัง” ที่แยกตัวออกไปแล้ว ก็ทำให้เลือกตั้งรอบหน้า “รวมไทยสร้างชาติ” ก็น่าจะ “ขาดกระสุนดินดำ” พอสมควร และอาจได้สส.น้อยลง

ทำให้ “เสี่ยเฮ้ง” ก็ต้อง มองหาพรรคใหม่ ไว้เช่นกัน หลังก่อนหน้านี้ก็อยู่มาทั้ง “พลังชล-พลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ” ดังนั้นหากจะย้ายอีกรอบ ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก โดยเฉพาะหากมีการปรับครม.แล้ว “เสี่ยเฮ้ง” โดนปรับออกจาก “รมช.แรงงาน” แบบนี้ก็ตัดสินใจได้ง่าย เลือกตั้งเมื่อไหร่ ก็ออกจาก “รวมไทยสร้างชาติ” แน่ เพียงแต่จะไปพรรคไหน เพราะมีหลายพรรคก็จีบอยู่ เช่น “ภูมิใจไทย” เป็นต้น

และยังมีข่าวอีกว่า “ธรรมนัส” ก็กำลังวางแผน เดินสาย “ตามเก็บสส.-อดีตสส.เกรดเอ” จากพรรคอื่นคือพวก “สอบตกตอนเลือกตั้งปี 2566” แต่ได้คะแนนดี มาเป็น อันดับสอง เข้า “กล้าธรรม” อีกหลายคน

รวมถึงก็เดินสายพูดคุยกับ “บ้านใหญ่-ตระกูลการเมือง” เช่น พวกนายกฯอบจ.อีกหลายจังหวัดที่สนใจส่ง คนในครอบครัวเช่น ภรรยา-ลูกหลานลงสส. ก็มีการไปคุยไว้แล้วหลายจังหวัดเช่นกัน

เรียกได้ว่า กล้าธรรม เดินเกมเตรียมพร้อมเลือกตั้ง เร็วกว่าพรรคอื่น ไปล่วงหน้าแล้ว หลังลือกันว่า ตอนนี้มีสส.ในสภาฯ พรรคอื่นทั้งรัฐบาล-ฝ่ายค้าน มีสัญญาใจกับธรรมนัส ในการจะย้ายมากล้าธรรมตอนเลือกตั้งรอบหน้า ไม่ต่ำกว่า 10 คน   

ด้าน “ร.อ.ธรรมนัส” ให้สัมภาษณ์ไว้ถึงกรณีเคยระบุจะมีคนมาเข้าพรรคอีก 30 กว่าคนว่า สิ่งที่ตนและนางนฤมล (ภิญโญสินวัฒน์-หัวหน้าพรรค) ได้พูดไว้ พูดอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ตอนนี้เรามองข้ามช็อตไปถึงการเตรียมตัวที่จะสู้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าแล้ว มาเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น

“ขอให้รอติดตามดูหลังจากวันนี้ สำหรับทั้ง “อนุดิษฐ์และการุณ” ผมได้รู้จักกันมานาน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการขับเคลื่อนโดยจะมีอีกหลายคนนอกจาก ทั้ง 2 คนมาร่วมอุดมการณ์ ขอให้ติดตามในแต่ละสัปดาห์”

ต้องยอมรับว่า ด้วยการที่ “พรรคกล้าธรรม” เป็น “พรรคร่วมรัฐบาล” คุม “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” แบบเบ็ดเสร็จ อีกทั้งถูกมองว่า เป็น พรรคพันธมิตร กับ “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” จนถูกเรียกว่า “พรรคสาขา” เช่นเดียวกับ “พรรคประชาชาติ” ของ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานรัฐสภา ที่เน้นพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ก็การันตีการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หาก “พรรคเพื่อไทย” เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลรอบหน้าอีกครั้ง ตลอดจนการที่พรรคสามารถชนะเลือกตั้งซ่อมสส.นครศรีธรรมราช โดยเอาชนะ “พรรคภูมิใจไทย” เจ้าของพื้นที่เดิมไปได้

สิ่งเหล่านี้ ย่อม “ดึงดูดนักเลือกตั้ง” ให้สนใจเข้ามาอยู่กับ “พรรคกล้าธรรม” รวมถึงพวก “นายทุน-นักธุรกิจ” ที่พร้อมจะเข้าไปสนับสนุน ทั้ง “เปิดเผย” และ “ปิดลับ” ที่ทำให้ “พรรคกล้าธรรม” มี “คลังกระสุนดินดำ” ไว้ใช้สำหรับการเลือกตั้งได้เต็มที่

จึงไม่แปลกที่นับวัน “กล้าธรรม” จะยิ่งถูกจับตามองว่า เป็นพรรคที่จะเป็นตัวแปรในการเลือกตั้งรอบหน้าพอสมควร หากพรรคได้สส.หลังเลือกตั้งระดับ 50 เสียง เป็นอย่างน้อย

…………………………………………

คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง

โดย “พระจันทร์เสี้ยว” 

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img