เจาะแผนประทุษกรรมฮั้วสว.มาเหนือเมฆ กลิ่นฉาวใช้“เงินรัฐ”จ่ายแลกเก้าอี้ผู้ช่วยฯ

เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เดินทางเข้าให้ข้อมูล “กกต.-DSI” ใน “คดีฮั้วเลือก สว.” วันแรก นำโดย “บิ๊กเกรียง-พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์” รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ขณะที่มี “สว.บางส่วน” ขอชี้แจงผ่านเอกสารและขอเลื่อนการเข้าพบ กกต. ตามนัดหมายในวันดังกล่าว

ขณะเดียวกัน มีประเด็นใหญ่ในช่วงเช้าวันเดียวกัน เมื่อมีการ “ออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้อง” จาก “พรรคการเมืองใหญ่” อีกกว่า 10 คน ที่ถูกเชื่อมโยงคดีนี้

เมื่อลองไล่เรียงรายชื่อ พบรายละเอียดดังนี้

1.นางสาววาริน ชิณวงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช

2.นายสุบิน ศักดา นักการเมืองท้องถิ่น และผู้รับเหมาใน อ.วิภาวดี

3.นายสมเกียรติ เลียงประสิทธิ์ นายกสมาคมประมงสตูล

4.นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ อดีตสส.สุโขทัย และที่ปรึกษา มท.1

5.นายวงศกร ชนะกิจ อดีตผู้สมัคร สส.ภูเก็ต พรรคภูมิใจไทย

6.นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต สส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย และอดีตรองประธานสภาฯ

7.นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ และแกนนำพรรคภูมิใจไทย

8.นายเตชสิทธิ์ ชูแก้ว สว.นครศรีธรรมราช (ชื่อซ้ำกับล็อตแรก)

9.นายสมศักดิ์ จันทร์แก้ว สว.นครศรีธรรมราช (ชื่อซ้ำกับล็อตแรก)

10.นายณัฐกิตต์ หนูรอด สว.พัทลุง (ชื่อซ้ำกับล็อตแรก)

ด้าน “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ “กกต.” ออก “หมายเรียกเพิ่ม” แก่ผู้ถูกแจ้งข้อหาในคดีฮั้วเลือก สว. ที่มีมีชื่อ “นภินทร ศรีสรรพางค์” รมช.พาณิชย์ จากพรรคภูมิใจไทย และ “ศุภชัย โพธิ์สุ” อดีตรองประธานสภาฯ และสส.ของพรรค โดยบอกว่า ตนยังไม่ทราบ เดี๋ยวเขาก็คงต้องไปชี้แจง

ขณะที่ “นภินทร ศรีสรรพางค์” รมช.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนยังไม่ได้เห็นหนังสือ ทราบแต่เพียงจากข่าว ซึ่งพร้อมชี้แจง ไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า การถูกออกหมายเรียกเช่นนี้ เกี่ยวโยงกับการเมืองหรือไม่ “นภินทร” ปฏิเสธว่า ไม่ขอวิจารณ์ แต่ยืนยันหากมีหมายเรียก ก็พร้อมไปชี้แจงข้อเท็จจริง และปฏิบัติตามหมายทุกอย่าง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่เกี่ยวข้อง

ส่วนกรณีดังกล่าวจะส่งผลอย่างไร ต่อพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ “นภินทร” มองว่า ไม่น่าจะส่งผลอะไร และขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับนายอนุทิน รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามว่า จะเป็นเกมการเมืองระหว่างแดงกับน้ำเงิน หรือไม่ “นภินทร” ปฏิเสธการตอบคำถาม โดยระบุว่า ไม่ขอวิจารณ์ แต่ยืนยันว่าพร้อมที่จะปฏิบัติ ตามอำนาจของทุกองค์กร

ด้าน “ศุภชัย โพธิ์สุ” อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง และอดีต สส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่อง และยังไม่ได้รับหมายเรียกคดี “ฮั้ว สว.” แต่หากมีหมายเรียกมาอย่างเป็นทางการ ก็พร้อมชี้แจงความบริสุทธิ์ ว่าไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวหา เพราะเป็นประชาชนธรรมดา ไม่มีบารมีอะไร และที่ผ่านมา ก็ทำงานอยู่กับชาวบ้านตลอด

ขณะที่ “วารินทร์ ชิณวงศ์” นายก อบจ.ฯนครศรีธรรมมราช หนึ่งในผู้ที่มีรายชื่อถูกเรียกเข้าไปชี้แจงในกรณีเดียวกัน กล่าวว่า รับทราบข่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้รับหมายเรียก ส่วนจะไปรายงานตัวเมื่อไหร่ ขอดูละเอียดของหนังสือก่อน ยืนยันว่ายินดีไป ไม่มีความกังวล เชื่อว่าจะสามารถชี้แจงได้

เช่นเดียวกับ “วงศกร ชนะกิจ” อดีตผู้สมัคร สส. ภูเก็ต เขต 2 พรรคภูมิใจไทย บอกว่า เพิ่งทราบเรื่อง แต่ไม่รู้สึกกังวลอะไร หาก กกต.เรียก ก็พร้อมเข้าไปให้ข้อมูล เพราะในข้อเท็จจริงไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว ยินดีให้ความร่วมมือ

สำหรับการสมัคร สว. “วงศกร” บอกว่า ตัวเองอายุไม่ถึง ถ้าพูดกันตรงๆ หากอายุถึงก็คงสมัครด้วยแล้ว แต่พออายุไม่ถึง ไม่มีคุณสมบัติ จึงไม่ได้ไปยุ่งอะไร และก็ทำงานให้พรรคการเมืองตามปกติ แต่ก็มีคนพยายามลากตนเข้าไปพัวพัน ก็พร้อมให้ข้อมูลตามความเป็นจริง

“สว.ลอตแรก” เข้าชี้แจง “กกต.” ตามหมายเรียก

ส่วนความเคลื่อนไหวที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มี สว.ทยอยเดินทางมาให้ข้อมูลชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดีคำร้องฮั้วเลือก สว. กับทาง คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนคณะที่ 26 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ

เริ่มจากในช่วงเช้า “พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์” รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1, “นิพนธ์ เอกวานิช” ขณะที่ช่วงบ่าย “สิทธิกร คงยศ” “อลงกต วรกี” ตามด้วย “อดีตผู้ว่าฯปู-วีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี” ก็ทยอยเดินทางกันมา เป็นต้น

ด้าน “พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา” สว.อีกราย ขอเลื่อนมาชี้แจง เนื่องจากติดภารกิจอยู่ต่างประเทศ เช่นเดียวกับ “วิวรรธ ไกรพิสิฐกุล” ขอเลื่อนไปชี้แจงวันอื่น

เจาะ “แผนประทุษกรรมฮั้ว สว.” สะพัดใช้เงินรัฐจ่ายแลกเก้าอี้

เมื่อมีการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า แผนประทุษกรรม “โพยฮั้ว สว.” ที่ “ดีเอสไอ” ได้มาจากปากคำพยาน พบเบาะแสสำคัญคือ กลุ่มที่น่าจะมีค่าตอบแทนสูง คือ “กลุ่มพลีชีพ” เลือก “บุคคลเป้าหมาย” ให้ได้เป็น สว.

โดยกลุ่มนี้ เมื่อดูแผนประทุษกรรม จริงๆ แล้วก็ยังได้เงินไม่มากนัก แต่พบว่า มีการตอบแทนด้วยวิธีอื่นคือ ตั้งเป็น “ผู้ช่วย สว.” และจากอัตราของผู้ช่วย สว. พบว่า

-ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว สว. 1 อัตรา เงินเดือน 28,800 บาท
-ผู้ชำนาญการประจำตัว สว. 2 อัตรา เงินเดือน 18,000 บาท
-ผู้ช่วยดำเนินงาน สว. 5 อัตรา เงินเดือน 18,000 บาท

แปลว่า “สว. 1 คน” มี “ผู้ช่วยได้ 8 อัตรา” ถ้าคิดจำนวน 138 สว.ที่ได้เป็นตัวจริงตามโพยฮั้วที่ ดีเอสไอระบุ จะ สามารถตอบแทนกลุ่มพลีชีพได้มากถึง 1,104 คน เลยทีเดียว

ฉะนั้นหากมีการตกลงกันแบบนี้ล่วงหน้า การใช้เงินในกระบวนการเลือกตั้ง “ฮั้ว สว.” อาจน้อยอย่างไม่น่าเชื่อก็ได้ เพราะมีการสัญญาว่า จะใช้เงินรัฐในอนาคตจ่ายตอบแทน ในการดำรงตำแหน่งผู้ช่วย สว. ไม่ได้ควักกระเป๋าเงินตัวเองแต่อย่างใด

แต่นี่เป็นเพียงแนวทางการสืบสวน ที่ต้องอาศัยพยานหลักฐานสำคัญ โดยเฉพาะหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ มาพิสูจน์ทราบ และศาลอาจไม่รับฟัง “พยาน” กลุ่มที่มีส่วนได้-ส่วนเสีย กับ “คดีฮั้ว สว.” มากเกินไปนัก นั่นเอง

…………..

รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม