วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 22, 2025
หน้าแรกNEWS“ณฐพร”ยื่นกกต.ร้องยุบ“ภูมิใจไทย” เอี่ยวฮั้วเลือกสว.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ณฐพร”ยื่นกกต.ร้องยุบ“ภูมิใจไทย” เอี่ยวฮั้วเลือกสว.

“ณฐพร” หอบหลักฐานยื่นยุบ “ภูมิใจไทย” เอี่ยวฮั้วเลือก สว. ไม่กลัว “อนุทิน” ขู่ฟ้องควรรู้หน้าที่อย่าทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้ จ่อเปิดตัวย่อ 2 ส.เสือ “นายพล-นักธุรกิจ” เบื้องหลังการเมือง คุมองค์กรอิสระ

เมื่อวันที่ 21 พ.ค.68 นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อพิจารณายุบพรรคภูมิใจไทย โดยระบุว่ายื่นยุบพรรคภูมิใจไทยตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 (1) มีการกระทำอันเป็นการล้มล้างการปกครอง หรือได้มาซึ่งอำนาจการปกครองไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย ซึ่งเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็ได้ยื่นต่ออัยการสูงสุดไปแล้ว และมาตรา 92 (2) เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มายื่นต่อกกต. ซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยตรงที่จะส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า การกระทำของพรรคภูมิใจไทยเข้าองค์ประกอบความผิดตามที่ตนยื่นหรือไม่

นายณฐพร กล่าวว่าพยานหลักฐานนั้น โดยหลักแล้วการยื่นยุบพรรค ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องการล้มล้างการปกครองก่อน แต่คดีนี้พยานหลักฐาน เป็นข้อเท็จจริงเป็นเชิงประจักษ์ ซึ่งมีการตรวจสอบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกกต.ว่ามีการกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ว่า การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย เป็นเรื่องการได้มาซึ่งอำนาจการปกครองที่มิชอบและเป็นปฏิปักษ์ โดยรัฐธรรมนูญออกแบบให้ได้คนดี เด่น ดังมาเป็นวุฒิสภา จึงกำหนดให้ต้องเป็นคนที่มีความรู้ เชี่ยวชาญ เป็นที่ยอมรับของสังคม จึงออกแบบให้การเลือกมีความซับซ้อน เพื่อมาทำหน้าที่สำคัญอันหนึ่ง คือการให้ความเห็นชองกรรมการองค์กรอิสระ เพราะถ้าได้ สว.ที่มาจากฝ่ายการเมือง องค์กรอิสระก็จะได้คนที่ไม่ถูกต้อง ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ และทำให้เกิดความเสื่อมเสีย เสียหายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ที่มาของเอกสารในคดีนี้เป็นหลักฐานทางราชการ ทั้งดีเอสไอ ประกอบกับดีเอสไอ และกกต.ก็ยืนยัน ว่าการได้มาของ สว.ชุดนี้มีการกระทำผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. มาตรา 67 เขียนไว้ชัดเจนว่า พรรคการเมืองกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่ง สว.ก็ถือว่าเป็นความผิด และมาตรา 22 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมืองก็เขียนลักษณะเดียวกัน ดังนั้นที่มายื่นวันนี้เพราะมีข้อมูลว่า สว. 138 คน และสำรองอีกประมาณ 40 คน เป็นคนของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งตรงนี้ทำให้ตนมั่นใจว่า ในทางการสอบสวนไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า การมายื่นยุบพรรคการเมือง ก่อนที่การสอบสวนเรื่อง สว.ยังไม่เสร็จ จะเป็นการดิสเครดิตหรือไม่ นายณฐพร กล่าวว่า อย่าลืมว่า สว.มีหน้าที่แต่งตั้งองค์กรอิสระ แล้วในการทำงาน 1 ปีที่ผ่านมา การให้ความเห็นชอบองค์กรอิสระ ทั้งผู้ตรวจการแผ่นดิน ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งผ่านการสรรหามาด้วยคะแนนเสียงสูง แต่สว.กลับไม่ให้ความเห็นชอบ ขณะเดียวกันก็มีการยึดอำนาจการพิจารณาของกรรมาธิการชุดต่างๆ ทำให้การทำงานในส่วนนี้ง่อยเปลี้ยเสียขา กรณีนี้จึงเป็นเรื่องเร่งด่วน โดยหลักแล้ว สว.ชุดนี้ ควรสำนึกตัวเอง ไม่นำเรื่องการให้ความเห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระที่เข้ามาพิจารณาในวันที่ 30 พ.ค. ควรรอการพิจารณาของศาล หากตัดสินว่าไม่ผิด ก็จะทำให้การตัดสินของเขาโปร่งใส สง่างาม

เมื่อถามว่านายอนุทิน เตรียมฟ้องคนที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยเสียหาย นายณฐพร กล่าวว่า นายอนุทิน เป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรีมหาดไทย อาสามาทำงานเพื่อประเทศ ควรรับฟังความเห็น ข้อกล่าวหาของประชาชน ไม่ใช่ว่าเขาจะตรวจสอบแล้วท่านก็จะมาฟ้องร้อง ถ้าจะฟ้องก็ควรรอให้คดียุติก่อน ถ้าเป็นเท็จก็ควรดำเนินการ

“ไม่ใช่ว่าพอเขาจะตรวจสอบก็ไปฟ้องเขา อันนี้เป็นลักษณะของนักเลงหัวไม้มากกว่า การที่นายอนุทินระบุว่าเรื่องนี้ไร้สาระนั้น ผมมองว่านายอนุทินต่างหากที่ไร้สาระ ควรคำนึงถึงบทบาทของตัวเอง เป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรีที่มีหน้าที่รับใช้ประชาชน สามารถให้ประชาชนตรวจสอบได้ อย่างคดีเขากระโดง ศาลฎีกาตัดสิน คุณยังตะแบงว่าไม่ใช่ แล้วอย่างนี้ประเทศเราจะอยู่แบบไหน” นายณฐพร กล่าว

ทั้งนี้ตนมีรายชื่อ และรายละเอียดทั้งหมดว่าใครเป็นเจ๊ใหญ่ ใครเป็นผู้ยิ่งใหญ่ รับเงินมาอย่างไร และมีบรรดาหัวหน้าคนในจังหวัดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งถ้าใครอยากได้ สว.เพิ่มจาก 2 คนก็มีการจ่ายหัวละ 2-7 ล้านบาท เรื่องทุกอย่างที่ตนพูดมา ปรากฎอยู่ในสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอ และ กกต. โดยข้อมูลเส้นทางการเงินดีเอสไอมีหมด เขาจึงตั้งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร ส่วน กกต.ได้ตั้งข้อหาฮั้วเลือก สว.

“สิ่งที่ผมห่วงมากที่สุด ผมกลัวอยู่ 2 คนที่จะทำให้กระบวนการยุติธรรมเปลี่ยนไป คนหนึ่งเป็นพลเอก ส. และอีกคนหนึ่งเป็นนาย ส. ที่จะทำให้กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยมีปัญหา และผมเรียนว่าคงไม่นานเกินรอด้วย ขณะนี้ผมกำลังติดตามข้อมูลอยู่ ถ้าได้เบอร์โทรศัพท์ หรืออะไรต่างๆมา ผมสัญญาว่าจะแถลงต่อสื่อมวลชน ว่า มนุษย์ 2 ตนนี้เป็นใคร แล้วทำอะไร เพราะฉะนั้นกระบวนการยุติธรรมที่เราได้ร้องๆไป มันไม่เป็นผลเพราะเกิดจากคน 2 คนนี้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะทำให้ประเทศชาติปราศจากนักการเมืองชั่วๆ นักลงทุนชั่วๆ” นายณฐพร กล่าว

เมื่อถามว่ารายชื่อ 2 ส. ที่ระบุมามีอำนาจที่จะสั่งการองค์กรอิสระได้ทุกองค์กรเลยหรือไม่ นายณฐพร กล่าวสั้นๆว่า ใช่ครับ เมื่อถามต่อว่า 2 ส. ที่กล่าวถึงนั้นเข้ามามีบทบาททางการเมืองตั้งแต่เมื่อไหร่ นายณฐพร กล่าวว่า ตั้งแต่หลังรัฐประหาร

เมื่อถามว่า การยื่นคำร้องในวันนี้เป็นนิติสงครามทางการเมืองระหว่างสีแดงและสีน้ำเงิน เหมือนที่มีการพูดหรือไม่ นายณฐพร กล่าวว่า ตนไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองใดๆ ไม่สนิทกับนาย อนุทิน ชาญวีรกูล นายเนวิน ชิดชอบ หรือนายทักษิณ ชินวัตร ตนก็เคยฟ้องมาทักษิณ ในกรณีเกี่ยวกับการอภัยโทษที่มีความมิชอบ เรียนว่าตนไม่ใช่สีใดๆทั้งสิ้น แต่เป็นสีของประชาชน

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img