“พรรคเพื่อไทย” ปะทะ “พรรคภูมิใจไทย” หมัดต่อหมัด ชนิดติดดาบปลายปืน ตะลุมบอนกันแล้ว แม้ระดับแกนนำของทั้ง 2 พรรค ออกมาปฏิเสธหลายต่อหลายครั้ง ว่าไม่ได้ขัดแย้งกัน แต่สังคมไม่เชื่อ เพราะ “เบื้องหลังแห่งเกมชิงอำนาจ” ดุเดือด โดยไม่รู้ออกหัว-ออกก้อย
คดีที่แต่ละฝ่ายถูกชนักปักอก อาทิ “เทือกเขากระโดง-สนามกอล์ฟทับที่ดินส.ป.ก.-โรงแรมวัลเลย์เขาใหญ่-สนามกอล์ฟอัลไพน์” เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเดินแต้มพลาด ก็หยิบประเด็นเหล่านี้ ออกมาเขย่าตีกินได้
ดูตามรูปเกมที่ “เพื่อไทย” เบียดชนะ “ภูมิใจไทย” เพื่อ “ขี่คอทางการเมือง” ได้ เหลือประตูเดียว “คดีฮั้วเลือกสว.” เมื่อหัวหมู่ทะลวงฟัน “เจ๊แมว-กุสุมาลวตี ศิริโกมุท” สว.สำรอง อดีตสส.พรรคเพื่อไทย “พลีชีพ” เปิดขบวนการฮั้วชนิดเห็นรูขุมขน
ประเดิมแพลมไต๋ในชั้น คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ที่มีจอมเก๋าเกม “ฉลาด ขามช่วง” สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ก่อนทิ้งบอมบ์ บุกยื่นร้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคภูมิใจไทย
อ้างมีหลักฐานเด็ด “พฤติกรรมอั้งยี่” และ “พฤติกรรมทั่วไป” พบเส้นทางการเงิน โดยตีไปที่ไข่ในหินของเจ้าสำนักเทือกเขากระโดง
แถมโยนระเบิดใส่ “เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวหาให้สว.สายสีน้ำเงินไปพบโรงแรมหรูกลางเมืองหลวง เขียนใบลาออกล่วงหน้า ตีกรอบให้อยู่ภายใต้สั่งการของพรรค
ปิดท้ายที่พฤติกรรมส่อแสดงรู้เห็นบงการขบวนการเลือก สว. ควรยุบพรรคภูมิใจไทย เลือกสว.สมควรตกเป็นโมฆะ โดยยกเหตุเทียบครั้งในอดีตจ้างพรรคเล็กลงสมัครสส. เลือกตั้งครั้งนั้นยังเป็นโมฆะ
“กุสุมาลวตี” ยังเปิดไต๋ให้เห็นธงต้องการ เบรกเกม สว.เลือกกรรมการองค์กรอิสระ 7 องค์กร อยู่ภายใต้ครอบงำของบางพรรคการเมือง
แม้งานนี้ “เสี่ยหนู” ควันออกหู ไม่ให้ค่าคนจ้องเผาพรรคภูมิใจไทย ย้ำอีกเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน ทั้งบุคลากรภายในพรรค หัวหน้าพรรค พรรคไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้วสว. แต่กลับมีคนพยายามเจาะยาง
“ค่ายน้ำเงิน” ดาหน้าออกมาท้าเปิดชื่อจริง หงายหลักฐานเส้นทางการเงิน ขอสู้ถึง “ฎีกา” ฟ้องกลับกราวรูด หลังขบวนการจ้องล้ม “ภูมิใจไทย” เปิดหน้ากล่าวหากันจะจะ ไม่มีเหนียม
ไม่หวั่นนักร้องไมค์ทองคำ “ณฐพร โตประยูร” อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร้อง กกต.ผ่านไปถึงศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบ “ภูมิใจไทย” โดยสำทับถึงพฤติกรรมขบวนการฮั้วเลือกสว. และพฤติกรรมเสียงข้างมากในวุฒิสภา
ชี้ให้เห็นตั้งแต่คัดเลือกประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา ประธานคณะกรรมาธิการทุกคณะ ทิศทางลงมติเหมือนฝักถั่วไปแนวทางเดียวกัน ยกตัวอย่างให้เห็นเฉพาะผลประชุมเดือนพ.ย. 67 ประชุมวุฒิสภา 21 ครั้ง ลงมติ 48 ครั้ง ผลชี้ชัด “สว.นอกกลุ่มสีน้ำเงิน” แพ้โหวตทุกครั้ง
พร้อมย้ำให้เห็นภาพการเห็นชอบ โหวตให้บุคคลที่เหมาะสมเข้าไปดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระ พฤติกรรมทั้งหมดเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ เซาะกร่อนบ่อนทำลายการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทางเป็นประมุข ที่ต้องการได้อำนาจการปกครองโดยเบ็ดเสร็จ ส่อล้มล้างการปกครอง
ยกเหตุให้ “กกต.” ส่งสำนวนการสอบสวน 138 สว.ให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด เบรกสว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ หลัง “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” และ “กกต.” สืบสวนร่วมกัน จนพบพยานหลักฐานขบวนการฮั้ว และชี้ขาดยุบพรรคภูมิใจไทย
ก่อนหน้านั้นเสือเก่าปืนไว อย่าง “นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ” สว. เปิดวาร์ปวาระสอดไส้ในสมัยประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญ
โดยเตรียมเสนอวาระเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ทั้ง “ป.ป.ช.” 3 ตำแหน่ง “อัยการสูงสุด” 1 ตำแหน่ง เสนอญัตติด่วนตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบคุณสมบัติของ “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” 2 ตำแหน่ง และ “กกต.” 1 ตำแหน่ง
เกมเร่งรัดปิดเกมเฟ้นตำแหน่งในองค์กรอิสระ จึงเจอทุกสายรวมพลังแตะเบรกสว.สายสีน้ำเงิน สกัดอำนาจ “ผู้นำจิตวิญญาณแห่งเทือกเขาดงพญาเย็น” ก่อนบดขยี้คดีฮั้วเลือกสว.ภาคสองเป็นฉากต่อไป
เล่นกันถึงขั้นแตกหัก สู้ถึงฎีกา บีบต่อรองฮั้วแชร์อำนาจ ต้องติดตามห้ามกะพริบตา
………………………………
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น
