‘แพทยสภา’ ปัดส่งเอกสารเพิ่มให้ ‘สมศักดิ์’ ย้ำให้ไปครบ เพียงพอที่จะตัดสินใจวีโต้มติลงโทษ 3 หมอ เอี่ยวชั้น 14 ‘หมออมร’ ยันเข้าร่วมประชุม 12 มิ.ย.ไร้คนล็อบบี้ บอกไม่ทราบผู้ร้องขอความเป็นธรรมผ่านรมว.สธ ผิดขั้นตอนหรือไม่ จากปกติมีสิทธิ์ร้องศาลปกครองได้
จากกรณีที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ได้ทำหนังสือมาขอให้แพทยสภาส่งเอกสารเกี่ยวกับการพิจารณาจริยธรรมแพทย์ 4 คนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากรพ.ราชทัณฑ์ ไปรักษาที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งต่อมา แพทยสภา ได้มีมติให้ลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการลงโทษตักเตือน 1 คน และพักใช้ใบอนุญาต 2 คน และส่งเรื่องให้สภานายกพิเศษพิจารณาว่าจะวีโต้หรือไม่ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2568
ล่าสุดวันที่ 23 พ.ค.68 ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภา ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องนี้สภานายกพิเศษสามารถเรียกเอกสารเพิ่มได้ แต่ทางแพทยสภาไม่ได้ส่งเอกสารอะไรไปให้เพิ่มเติม เพราะตั้งแต่วันที่ไปยื่นมติแพทยสภาให้สภานายกพิเศษก็ได้ยื่นเอกสารประกอบไปหมดแล้วตามที่ควรจะได้ ในส่วนที่สามารถให้ได้ คิดว่าแค่นั้นก็มากเพียงพอที่เขาจะพิจารณาได้แล้ว
เมื่อถามว่า หากแพทยสภาไม่ส่งเอกสารเพิ่มเติมไปให้ ว่าจะทำให้สภานายกพิเศษมีการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งกลับมา ศ.นพ.อมร กล่าวว่า เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งการที่เราจะตัดสินลงโทษอะไรใครมันก็ต้องมีความโปร่งใส ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ใช่ยุกยิกๆ มันมีเอกสาร ข้อมูลต่างๆ ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ในการพิจารณามันก็เป็นความลับในกลุ่มกรรมการ แต่ในส่วนของการพิจารณานั้นมีข้อมูลหลักฐานชัดเจน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีหนึ่งในผู้ร้องขอความเป็นธรรมกับสภานายกพิเศษ ระบุว่า แพทยสภาไม่ควรตัดสินทั้งที่เอกสารไม่ครบ เพราะมีบางอย่างที่เขาไม่ได้ส่งให้แพทยสภา เพราะแพทยสภาไม่ได้ขอ เชื่อว่าหากเห็นอาจจะมีการตัดสินเป็นอย่างอื่น ศ.นพ.อมร กล่าวว่า อันนี้ไม่ได้ เพราะเราขอให้เขาส่งหมดอยู่แล้ว ขนาดครั้งแรก ครั้งที่ 2 ที่ส่งมาเพิ่มเติมเรายังยอมขยายเวลาให้ทั้งๆ ที่เราจะสรุปแล้วตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา จนทำให้แพทยสภาถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้วยซ้ำ ดังนั้นเราเปิดช่องให้เขายื่นข้อมูลเอกสารอยู่แล้ว เราไม่เคยปฏิเสธ
“เราให้ความเป็นธรรมหมด เขาส่งอะไรมาเราก็รับ เมื่อไม่ส่งอะไรมาเพิ่มเติม เราก็ตัดสินไปตามนั้น นี่เป็นไปตามขั้นตอน เราให้โอกาสเต็มที่ภายใต้ภาววิสัยที่ดีที่สุดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” ศ.นพ.อมร กล่าว
เมื่อถามต่อว่า เนื่องจากตอนนี้มีกระแสการล็อบบี้กรรมการไม่ให้เข้าประชุม วันที่ 12 มิ.ย.นี้ จะเข้าประชุมด้วยหรือไม่ ศ.นพ.อมร กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีใครมาล็อบบี้ตน และยืนยันว่า วันที่ 12 มิ.ย.นี้ตนเข้าประชุมแน่นอนตามปกติ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยขาดประชุม ทั้งนี้เมื่อสภานายกพิเศษส่งความเห็นกลับมาแล้ว ทางกรรมการแพทยสภาก็มีการพิจารณาตามปกติ ซึ่งโดยทั่วไปไม่ได้ใช้เวลานาน โดยจะดูจากข้อมูลที่เขาส่งกลับมา ว่ามีความเห็นอย่างไร แตกต่างกันอย่างไร หากกรรมการแพทยสภาเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พิจารณากันหมดเรียบร้อยแล้วก็จบ แต่หากเป็นข้อมูลใหม่เอี่ยมจริงๆ ที่จะสามารถเอามาพิจารณาอะไรได้ ซึ่งจริงๆ มันก็น่าจะหมดแล้ว เพราะสภานายกพิเศษนั้นเราก็ดูในกรอบข้อมูล กระบวนการที่เราทำมา ทั้งข้อมูล ทั้งการสอบสวน ที่เราทำเต็มที่
“ส่วนผู้ถูกร้องนั้นเราก็มีช่องทางไปศาลปกครอง ที่สามารถทำเพิ่มเติม เป็นความยุติธรรมที่เขาให้อยู่ในระบบอยู่แล้ว ส่วนในชั้นสภานายกพิเศษก็เอาเพียงแค่นี้ ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่จบเสียที เขาก็ส่งข้อมูลมาเรื่อยๆ ทุกเดือนๆ มันก็ไม่จบ ดังนั้นก็ให้จบ แต่เขาก็สามารถไปขอความยุติธรรมที่ศาลปกครองได้ตามสิทธิ์” ศ.นพ.อมร กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า แปลว่า การที่ผู้ร้องขอความยุติธรรมที่มายื่นผ่านสภานายกพิเศษนั้นถือเป็นการผิดขั้นตอน ผิดช่องทางหรือไม่ ศ.นพ.อมร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่สภานายกพิเศษ รัฐมนตรีสมศักดิ์ ก็ต้องดูตามกติกา ตามขั้นตอน
ด้าน นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 กรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 คนกล่าวว่า เนื่องจากแพทยสภาแจ้งว่าไม่มีเอกสารใดที่จะให้เพิ่มเติม ดังนั้นคณะกรรมการฯ ได้นัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 26 พ.ค.นี้เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาพิจารณาอีกครั้ง แล้วกรรมการแต่ละคนก็เสนอความเห็นต่อนายสมศักดิ์ วันที่ 27 พ.ค.นี้ เพื่อพิจารณาและตัดสินใจว่าจะเห็นด้วยหรือวีโต้มติแพทยสภา.