“กุสุมาลวตี” อดีตผู้สมัคร สว. ฟ้องศาลอาญา เอาผิด “อนุทิน” หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พร้อมสะอื้นหลั่งน้ำตา เสียใจ ถูกกล่าวหากักขฬะ ยืนยันไม่ถอนฟ้อง เดินหน้าเต็มที่และไม่กลัวตาย
วันที่ 23 พ.ค.2568 ที่ศาลอาญา นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ภายหลังยื่นหนังสือต่อศาลอาญา กรณีฟ้องนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ข้อหาหมิ่นประมาณโดยการโฆษณาทำให้เกิดความเสียหาย และเสียชื่อเสียง นางกุสุมาลวตี กล่าวว่ามายื่นฟ้องนายอนุทิน ตามหมายเลขคดี 1418 ในข้อหาหมิ่นประมาณด้วยการโฆษณา ที่หมิ่นประมาทตนด้วยข้อความที่เป็นเท็จ ใส่ร้าย ว่าตนเป็นบุคคลอักขระ กักขฬะ นิสัยไม่ดี ชอบพูดโกหก ซึ่งเข้าองค์ประกอบความผิด ทั้งนี้ ตนมองว่า นายอนุทิน เป็นผู้ใหญ่ การพูดจาเช่นนั้นไม่เป็นบรรทัดฐานที่ดีในการเป็นเจ้าที่รัฐ และตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ (รธน.) ข้อ 41 พลเมืองสามารถยื่นคำร้องเรียกความเป็นธรรมกับหน่วยงานของรัฐได้ เนื่องจากตนเห็นว่าบ้านเมืองจะต้องมีบุคคลลุกขึ้นมาปกป้องประชาธิปไตย และมาต่อสู้กับขบวนการที่ไม่ถูกต้อง หากสมาชิกวุฒิสภาถูกครอบงำ ทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช. ) และองค์อิสระทั้ง 7 หน่วยงาน โดนบางคนครอบงำ บ้านเมืองจะอยู่อย่างไร ตนจึงเป็นพลเมืองคนหนึ่ง ที่ใช้มาตรา 41 เข้าร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อให้ยุบพรรคที่มีส่วนเกี่ยวข้องกระทำความผิดตามข้อบังคับกฎหมายพรรคการเมือง พร้อมย้ำว่า ตนทำหน้าที่ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง
นางกุสุมาลวตี กล่าวว่ามีความผิดข้อใด ทำไมนายอนุทิน ไม่แก้ข้อกล่าวหาให้จบสิ้นกระบวนการเสียก่อน แล้วค่อยมาพูด ส่วนที่มาด่าว่าและทำลายตนนั้น มันไม่ใช่การติติงเพื่อสาธารณะ เป็นการพูดเรื่องส่วนตัว และเป็นการทำลายผู้หญิงคนหนึ่ง รวมทั้งใส่ร้ายตน ขณะเดียวกันตนก็ยังคงยืนยันว่าไม่เคยอยู่พรรคชาติพัฒนา ฉะนั้นมาพูดได้อย่างไรว่าตนเป็นคนเลว นิสัยไม่ดี ดังนี้เข้าองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา สำหรับการมายื่นร้องขอให้ตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ตนนั้นมีความภูมิใจในการเป็นตัวแทนผู้แทนราษฎรที่ดี ฉะนั้นการที่ตนเข้ามาสู่การเมือง กับครที่ใส่ร้ายตน มันคนละอุดมการณ์ เพราะบางคนเข้ามาปกป้องผลประโยชน์ รวมถึงแสดงหาผลประโยชย์ ซึ่งแตกต่างจากตนที่เข้ามาเพื่อต่อสู้ทางการเมือง ยืนยันว่า ตนไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง และไม่มีใครมาสั่งตนได้ แต่ทำไปตามความรู้สึกของตนเอง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า จะมีการเรียกร้องค่าเสียหายจำนวนเท่าใด นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า เมื่อชนะคดี ตนจะฟ้องแพ่ง ซึ่งจะเรียกค่าเสียหายแน่นอน เพราะตนเป็นที่รักและที่ชื่นชมของคนในจังหวัด คาดว่า เรียกค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท และจากนี้ตนจะไปร้องจริยธรรมสส.ที่รัฐสภาวันนี้ด้วย ทั้งนี้ มีผู้หวังดีมาบอกกับตนว่า เมื่อเข้าไปชนก็ต้องระวัง เพราะคำว่าโหดเลวดีมันมี แต่โหดเลวไม่มีดีมันก็มี ซึ่งตนไม่กลัวตาย แต่ตนก็ไม่อยากตายอย่างโดดเดี่ยว
ซึ่ง นางกุสุมาลวตี ได้กล่าวต่อพร้อมกับเสียงสะอื้นว่า ทุกคนคือคนไทยทำไมไม่ช่วยกัน อย่าปล่อยให้ตนตายอย่างโดดเดี่ยว ซึ่งตนมีความกังวล เพราะหลังจากยื่นหนังสือ มีบุคคลมาบอกตนว่า สส.แมว ระวังตัวนะ อาจจะมีอะไรเกิดขึ้น เพราะเราเล่นใหญ่เกินตัว ซึ่งตนมองว่าหากเราไม่ยืนขึ้นแล้วใครจะทำ คนเก่งเยอะทั้งบ้านเมือง แต่กลับไม่มีคนกล้า / ฉะนั้น ทำไมต้องมารังแกคน ทำลายตน ในเมื่อตนมีความหวังดีต่อประเทศชาติ แล้วคุณเป็นถึงระดับรองนายกฯ เป็นถึงผู้ใหญ่และทำไมมาพูดแบบนี้ ทำไมถึงพูดว่าตน กักขฬะ ทำไมต้องกล่าวหาตนว่าชอบโกหก ขณะเดียวกัน มีผู้ใหญ่หลายคน ไม่ได้มองตน กักขฬะ และไม่ได้รู้สึกว่าตัวเป็นคนชอบโกหก และตนทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงๆ และตนเสียใจที่มาเจอแบบนี้ เพราะตนถือศีลว่า คนที่โกหกได้ ย่อมทำชั่วอะไรได้หมด ในเมื่อเป็นถึงผู้ใหญ่ แต่มารังแกผู้หญิงตัวเล็กๆ ฉะนั้น อยากถามหาจริยธรรมของคนที่เป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี
ส่วนคนที่มาบอกตน มีระดับใหญ่พอสมควร ย้ำว่าตนไม่กลัวตาย แต่มันอุกอาจเกินไป และเห็นข้อมูลที่ชัดเจน ปิดฟ้าด้วยฝ่ามือไม่ได้ ยืนยันว่า ตนไม่กลัว ส่วนที่ไปขอให้ ดีเอสไอ คุ้มครองพยานตนก็ไปดำเนินการมาแล้ว ส่วนศาลจะนัดไต่สวนวันที่ 21 ก.ค.68 นี้ เวลา 09.00น.
เมื่อถามว่า การยื่นยุบพรรคภูมิใจไทยจะเดินหน้าต่อหรือไม่ นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า เดินหน้าแน่นอน ไม่มีถอย ส่วนจะมีการเปิดเผยหลักฐาน สว. ที่โรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ หรือไม่ เพราะ สว.อ้างว่า มีเงินก็ไปกินข้าวได้ นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า คนทำผิดจะพูดอะไรก็ได้ แต่ต้องดูพยานหลักฐาน ซึ่งพยานหลักฐานชัด ตนจึงออกมาพูด และจะเปิดหลักฐานแน่นอน หลังจากชี้แจงเสร็จ ก็จะแถลงให้คณะกรรมการ กกต. ได้ดูแล้ว ตนก็จะนำมาให้สื่อมวลชนดูได้ มั่นใจ ตนไม่ถอนฟ้องแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แมวไล่จับหนูใช่หรือไม่ นางกุสุมาลวตี กล่าวว่า “ตนเป็นแมว แต่หนูเป็นสัตว์ที่เป็นพาหะนำเชื่อโรค” ดังนั้น ตนไม่จับหนู เพราะมันสกปรก กลัวจะติดเชื่อโรค
