“ปิ่นสาย” เดินหน้ายกร่างกฎหมายแก้ไขการจัดเก็บภาษีเงินได้จากต่างประเทศที่นำกลับเข้ามาในประเทศ เตรียมชงครม.คาดเริ่มบังคับใช้ยื่นภาษีรอบเดือนม.ค.-มี.ค.69
นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยความคืบหน้ายกร่างกฎหมายแก้ไขการจัดเก็บภาษีเงินได้จากต่างประเทศที่นำกลับเข้ามาในประเทศว่า คนไทยที่มีรายได้ในต่างประเทศหากนำเงินเข้ามาในประเทศภายในปีที่เกิดรายได้ หรือปีถัดไป จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่หากนำเข้ามาหลังจากนั้นจะมีการจัดเก็บภาษีตามปกติ ซึ่งเรื่องนี้อยู่ขั้นตอนดำเนินการเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมครม. คาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ในรอบการยื่นภาษี เดือนม.ค.-มี.ค. 2569 โดยอาจจะนับรายได้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป
ทั้งนี้เพื่อต้องการให้เม็ดเงินลงทุนของคนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ เช่น ในตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ ตลาดที่ซื้อขายที่ดิน รวมประมาณ 2 ล้านล้านบาท ไหลกลับเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เนื่องจากรายได้ที่เกิดขึ้นจากทรัพย์สินดังกล่าว เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล หากนำเข้ามาในประเทศแล้วต้องเสียภาษีจะอยู่ที่ประมาณแสนล้านบาท
โดยที่มาของการแก้กฎหมายมาจากการที่เริ่มแรกการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของประเทศไทยกฎหมายกำหนดให้ เก็บภายใต้ 2 หลัก คือ 1.ที่มาของเงินได้ เช่น เงินเดือนที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ต้องเสียภาษีทั้งหมด 2.ถิ่นที่อยู่อาศัย โดยกำหนดให้ผู้ที่อาศัยในประเทศไทยเกิน 180 วัน ถือว่ามีหน้าที่เสียภาษี ดังนั้น กรมฯ มองว่าควรแก้กฎหมายโดยปรับเกณฑ์ให้ผู้มีเงินได้จากต่างประเทศนำเงินกลับเข้ามาเพื่อลงทุนในประเทศไทย
โดยมีเงื่อนไข คือ จะยกเว้นภาษีหากนำเงินได้กลับเข้ามาในประเทศภายใน 2 ปี คือปีที่เงินได้เกิดขึ้นหรือปีถัดไป เช่น หากมีเงินได้ปี 2568 แล้วนำเงินได้มาในปี 2568 หรือ ปี 2569 จะไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ถ้านำเข้ามาในปี 2570 จะต้องเสียภาษี สาเหตุที่เว้นระยะให้ 2 ปี คือ เผื่อเวลาให้กรณีที่บางบริษัทจ่ายเงินปันผลให้ในช่วงปลายปีแล้วจะนำเงินกลับเข้ามาไม่ทัน โดยอยากให้เขาเอาเงินมาลงทุนในเมืองไทยเพิ่มขึ้น