“ทักษิณ” โต้ข่าวลือหนีออกนอกประเทศ ลั่น “ข่าวที่คนปล่อยอยากให้เป็นจริง ส่วนใหญ่คือไม่จริง” ยันพร้อมให้ความร่วมมือศาล
เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกโรงตอบโต้กระแสข่าวลือเรื่องการหลบหนีออกนอกประเทศอย่างดุเดือด โดยระบุว่า “ข่าวลือคือข่าวที่คนปล่อยอยากให้เป็นจริง ซึ่งส่วนใหญ่คือไม่จริง” พร้อมยืนยันว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับศาลในทุกขั้นตอน ยันไม่อยากออกมาเคลื่อนไหวมากนัก เพราะอายุมากแล้ว และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลดโทษแล้ว
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่พยายามเชื่อมโยงความเคลื่อนไหวของตนกับการเมืองหรือรัฐบาล โดยเขากล่าวว่า “หากไม่จำเป็นตนก็ไม่อยากออกมา อยากอยู่เงียบๆสบายๆ อายุมากแล้ว อย่าใช้งานตนเยอะ”
เมื่อถูกถามถึงข่าวลือที่ว่าตนจะหลบหนีออกนอกประเทศ นายทักษิณยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ก่อนอื่นจะแปลให้ฟังก่อนว่า ข่าวลือ แปลว่าอะไร ข่าวลือแปลว่า ข่าวที่คนปล่อยอยากให้เป็นจริง ซึ่งส่วนใหญ่คือ ไม่จริง” และเสริมว่า “ส่วนใครที่เป็นคนปล่อยนั้นก็มีอยู่ไม่กี่คน อย่าไปสนใจมาก ตนไม่ค่อยใส่ใจอะไรมากมาย”
สำหรับกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพร้อมและไต่สวนกรณีการพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 13 มิ.ย. นี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามว่านายทักษิณจะเดินทางไปเองหรือไม่ เขาตอบว่า “ถามทนายอยู่ว่าเขาให้ไปหรือไม่ เพราะความจริงแล้วจะไปหรือไม่ไปก็ได้ แต่ต้องมีทนายไป” เมื่อถามย้ำอีกครั้ง นายทักษิณกล่าวว่า “ยังไม่ทราบ มีเวลาตั้งหลายวัน วันที่ 12 มิ.ย. ตอนเที่ยงคืนค่อยตัดสินใจ”
ต่อข้อถามที่ว่า จำเป็นต้องไปศาลเองเพื่อเรียกความเชื่อมั่นหรือไม่ นายทักษิณตอบอย่างใจเย็นว่า “ไม่มีอะไรเลย จริงๆ แล้วจะไปหรือไม่ไป ก็เป็นเรื่องของความร่วมมือกับศาล ถ้าศาลต้องการข้อมูลเราก็ให้ได้ ไม่มีปัญหา ไม่มีอะไรที่จะไปตื่นเต้น อย่ามาตื่นเต้นแทนผมสิ”
ส่วนประเด็นที่มีการมองว่านายทักษิณจะไม่ไปไหน เพราะลูกสาว (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) เป็นนายกรัฐมนตรี นายทักษิณกล่าวว่า “ไม่มีเหตุผลอะไรเลย แหม่ อุตส่าห์กลับมาแล้วก็มาทำงาน และมีพระบรมราชโองการ มีพระมหากรุณาธิคุณ ลดโทษแล้ว บอกให้ผมใช้ความรู้ ความสามารถช่วยเหลือประชาชนในบ้านเมือง ผมก็ต้องรับด้วยเกล้าฯ รับใส่เกล้าฯ ไว้ เพราะเป็นเรื่องที่เป็นหน้าที่ผม” คำกล่าวนี้เป็นการตอกย้ำถึงความตั้งใจที่จะทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ภายหลังได้รับการลดโทษตามพระราชทานอภัยลดโทษ