‘เทพไท’ ตั้งคำถาม “ทักษิณ” ทำไมไม่เคลียร์ “ฮุนเซน” ปมพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ซัดรัฐบาลอ่อนแอ ปล่อยให้เพื่อนบ้านข่มขู่รายวัน
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.68 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็นต่อกรณีความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แต่กลับไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้
นายเทพไท ระบุว่า จากการติดตามสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนช่วงที่ผ่านมา พบว่ารัฐบาลไทยมีท่าที “มองโลกสวย” และ “อ่อนน้อมจนเกินไป” ขาดความเด็ดขาดในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ปล่อยให้กัมพูชานำโดยสมเด็จฮุนเซนและพลเอกฮุนมาเน็ต ออกมาเคลื่อนไหวและข่มขู่ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยที่ฝ่ายไทยไม่มีการตอบโต้หรือแสดงท่าทีใดๆ
นายเทพไท ยังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุพิพาทชายแดนมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลไทยอยู่ภายใต้การนำของบุคคลในตระกูล “ชินวัตร” ทั้งที่ครอบครัวชินวัตรมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับครอบครัวผู้นำกัมพูชา แต่กลับไม่สามารถใช้อิทธิพลหรือความสัมพันธ์ส่วนตัวเพื่อคลี่คลายปัญหาได้
นายเทพไทย เตือนว่า การปล่อยให้กัมพูชาเดินเกมทางการทูตเพียงฝ่ายเดียว โดยยื่นเรื่องต่อประชาคมโลก และเตรียมนำข้อพิพาทเข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ อาจทำให้ไทยเผชิญสถานการณ์ซ้ำรอยคดีเขาพระวิหารในอดีต ที่ศาลโลกตัดสินให้ไทยพ่ายแพ้
นายเทพไท ระบุอีกว่า รัฐบาลไทยนิ่งเฉยต่อการเคลื่อนไหวทางทหารของกัมพูชา ทั้งที่มีรายงานว่ามีการเสริมกำลังและติดอาวุธใกล้ชายแดน รวมถึงการประกาศจะยึดคืนพื้นที่สำคัญ เช่น ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกต โดยไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ ขณะเดียวกัน ไทยเองกลับไม่เรียกร้องคืนพื้นที่อย่าง เสียมราฐ พระตะบอง หรือศรีโสภณ ซึ่งเคยเป็นของไทยมาก่อน
สุดท้าย นายเทพไทตั้งคำถามตรงไปยังนายทักษิณว่า หากอ้างว่าสนิทสนมกับสมเด็จฮุนเซน และสามารถพูดคุยกันได้ตลอดเวลา เหตุใดจึงไม่ใช้ความสัมพันธ์ดังกล่าวห้ามปรามการเคลื่อนไหวที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศไทย พร้อมตั้งข้อสงสัยว่า พฤติกรรมเช่นนี้สะท้อนจุดยืนที่แท้จริงอย่างไร
“ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลไทยจะต้องลุกขึ้นแสดงจุดยืนอย่างแข็งกร้าว และปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่ปล่อยให้เพื่อนบ้านข่มขู่โดยไร้การตอบโต้แบบนี้” นายเทพไทกล่าว.
