“แพทองธาร” แจงยังไม่ถึงเวลาคุยปรับ ครม. ย้ำต้องหารือพรรคร่วมก่อน ชี้อยู่ระหว่างประเมินเพื่อประสิทธิภาพการทำงาน
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทยเสนอให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งใหญ่ หลังพรรคเพื่อไทยมีการประสานไปว่า ยังไม่ได้มีการหารือกับพรรคภูมิใจไทยในเรื่องนี้เป็นการเฉพาะเจาะจง
นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า การปรับ ครม. จะเกิดขึ้นเมื่อมีความจำเป็นและจะต้องมีการหารือกับทุกพรรคร่วมรัฐบาลก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งหากมีการปรับ ก็จะต้องมีการปรับในส่วนของพรรคเพื่อไทยด้วยเช่นกัน ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องพูดคุยในรายละเอียด แต่กำลังอยู่ในช่วงของการประเมินสถานการณ์และพิจารณาว่าการปรับแบบใดจะทำให้การทำงานดีขึ้น
เมื่อถูกถามว่าได้มีการส่งสัญญาณเรื่องการปรับ ครม. ไปยังพรรคร่วมรัฐบาลแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบว่า ยังไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ สถานการณ์ ณ ปัจจุบันยังคงเหมือนเดิม แต่ก็มีการพิจารณาเรื่องการปรับ ครม. ไว้ในใจอยู่บ้าง เพียงแต่ยังไม่ถึงขั้น 100%
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า หากมีการปรับ ครม. จะเป็นการปรับเฉพาะพรรคเพื่อไทย หรือจะมีการสลับกระทรวงกับพรรคร่วมรัฐบาลเป็นการปรับใหญ่ ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงรายละเอียดในตอนนี้ เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบและทำให้บุคคลที่มีชื่ออยู่ในกระแสข่าวเกิดความสั่นไหว
เมื่อสอบถามว่านายกรัฐมนตรีเห็นว่าถึงเวลาที่ต้องปรับ ครม. แล้วหรือยัง นายกรัฐมนตรีระบุว่า มีการพิจารณาเรื่องนี้อยู่ในใจแล้ว แต่หากจะมีการปรับ ครม. จริง จะต้องมีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนอย่างแน่นอน เพื่อขอคำปรึกษาและความคิดเห็นจากทุกฝ่าย
นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ยังไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลรายใดส่งสัญญาณเรื่องการปรับ ครม. เข้ามา และหากถึงเวลาที่จำเป็นต้องปรับจริง ก็จะต้องมีการเรียกทุกพรรคเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างแน่นอน โดยย้ำว่า ไม่ต้องการให้เป็นแบบ “ไม่ค่อยคุยแล้วทำเลย”
เมื่อถามถึงระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลที่เหลืออีก 2 ปี และความจำเป็นในการเร่งสร้างผลงาน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ควรใช้เวลาที่เหมาะสมดีกว่า “อย่าพูดว่าเร่งเลย ถ้าเร่งไปเดี๋ยวปรับจะไม่โอเค”
ส่วนอำนาจในการพิจารณาปรับ ครม. ว่าจะดูภาพรวมทั้งหมด หรือจะให้อำนาจแต่ละพรรคไปพิจารณากันเองภายใน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังไม่ได้คิดในรายละเอียด และขอจัดการเรื่องอื่นๆ ก่อน ส่วนเรื่องการปรับ ครม. และการหารือภายในพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ
