วันจันทร์, มิถุนายน 9, 2025
หน้าแรกHighlightไทยย้ำแผนเจรจา JBC แม้กำหนดเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ไทยย้ำแผนเจรจา JBC แม้กำหนดเวลาเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา

กต. ไม่ทิ้งแผนเจรจา JBC แม้ยกระดับเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ยัน ประเทศสมาชิกอาเซียน เข้าใจสถานการณ์ดี ไม่กังวล สื่อเขมรตีข่าว

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อดีตกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวพัฒนาการสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา ว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตามที่ได้รับรายงานล่าสุด ยังคงสงบดีทั้งนี้ ตามที่ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ลงนามในคำสั่งเปิด-ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนวนั้น ทางกระทรวงต่างประเทศ ขอยืนยันว่า ไม่ใช่มาตรการปิดด่านทั้งหมด แต่เป็นแนวปฎิบัติที่เป็นขั้นเป็นตอน เหมาะสมตามลำดับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่

โดยซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ขั้นดังนี้

1.การจำกัดการผ่านแดน โดยอนุญาตเฉพาะบุคคล เช่น การค้าขาย หรือ ขนส่งสินค้า และจำกัดบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายห้ามผ่าน

2.ปรับลดช่วงเวลาในการเปิด-ปิด จุดผ่านแดน ตามแนวชายแดน ตามความเหมาะสม

3.ปิดจุดผ่านแดนบางจุด (Selective Closure) โดยพิจารณาจากจุดที่มีความเสี่ยงสูง หรือมีข้อมูลด้านความมั่นคงที่อาจนำไปสู่การรุกล้ำ หรือการก่อเหตุจากฝ่ายตรงข้าม

4.ปิดจุดผ่านแดนตลอดแนวชายแดนในกรณีที่เกิดสถานการณ์วิกฤต หรือมีการรุกรานอย่างชัดเจน เพื่อควบคุมสถานการณ์ในระดับสูงสุด

ทั้งนี้ ขอประชาชนติดตามสถานการณ์ เวลาปิดเปิด และเอกสารที่ใช้ในการผ่านแดนจะแตกต่างกัน โดยเฉพาะ กองทัพภาคที่ 21 กองกำลังบูรพา จ.สระแก้ว กองทัพภาคที่ 2 จุดผ่านแดน ใน จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ จ.สุรินทร์ จ.ศรีสะเกษ และ กองทัพเรือกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด จุดผ่านแดนใน จ.จันทบุรี และ จ.ตราด ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้รวบรวมข้อมูลดังกล่าวไว้แล้ว

นายนิกรเดช ยังกล่าวว่า จากการสอบถามว่า การดำเนินของมาตรการไทย เป็นมาตรการฝ่ายเดียวนั้น การดำเนินตามมาตรการดังกล่าว เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่และความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ชายแดน โดยคำนึงถึงเศรษฐกิจ การค้าชายแดน วิถีชีวิต และมนุษยชน ควบคู่กันไป และพยายามไม่ให้มาตรการกระทบกับชาวไทยและกัมพูชา ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ตามที่ฝ่ายไทยยืนยันมาตลอด และยืนยันตั้งแต่ต้นและในทุกระดับ คือ ปฏิบัติตามและพร้อมใช้กลไกทวิภาคี โดยเฉพาะกลไก JBC ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย. นี้ และปฏิบัติตาม MOU43 ที่เป็นเอกสารตามกฎหมาย และเป็นกติกาที่ทุกฝ่ายได้ตกลงร่วมกันและต้องยึดถือ จึงขอย้ำว่า ถึงแม้มีการประกาศเปิด-ปิดด่าน แต่กรอบการเจรจาระหว่างสองประเทศ ยังเกิดขึ้นเช่นเดิม

รัฐบาลไทยขอยืนยันในความเชื่อมั่นว่า กลไกที่ไทยและกัมพูชามีอยู่ร่วมกัน คือ การใช้กลไก JBC ที่จะมาถึงมีประโยชน์อย่างยิ่งเพื่อลดความตึงเครียดในสภาวะที่เปราะบางเช่นนี้ เพื่อหาทางออกอย่างสันติ และเคารพซึ่งกันและกัน และด้วยความจริงใจต่อกันเพื่อให้ชายแดนของเรากลับสู่ภาพปกติ

เมื่อถามว่า ประเทศสมาชิกอาเซียน เข้าใจสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา มากน้อยแค่ไหน เพราะ ทางฝั่งกัมพูชา มีการกระจายข่าวตลอดว่า ฝ่ายไทยเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน นายนิกรเดช ชี้แจงว่า ไม่ใช่แค่ฝ่ายกัมพูชา ที่มีการนำเสนอข่าว ทางฝั่งประเทศไทยเอง เราก็มีการอธิบายกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอาเซียนอยู่เป็นระยะ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยภาพรวมแล้ว ประเทศสมาชิกอาเซียน เข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี ไม่มีการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img