“วิทยา” ยัน “รทสช.” ไม่ขอเปลี่ยน หากนายกฯ แจ้งปรับ ครม. “พีระพันธุ์-เอกนัฎ-สุชาติ” ยังนั่งตำแหน่งเดิม ยํ้ายังไม่มีสัญญาณกั๊กขับกลุ่ม 18 ส.ส.พ้นพรรค รอยุบสภาค่อยแยกย้าย
วันที่ 13 มิ.ย.2568 นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ระบุผ่านสื่อว่า พร้อมเป็นฝ่ายค้านหากโดนยึดกระทรวงพลังงานว่า ตนจะพูดเล่นทำไม มีที่ไหน เมื่อเขาไล่ออกจะหน้าด้านนั่งอยู่ทำไม ซึ่งกระแสการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ ตนได้ถามหัวหน้าพรรคเมื่อ 3-4 วันก่อน นายกรัฐมนตรียังไม่มีการสอบถามว่าจะให้ปรับอย่างไร เราก็ต้องอยู่เฉยๆ แต่หากเขาถามมา เราก็จะยืนยันตำแหน่งเดิม ไม่มีการปรับเปลี่ยน
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯและแกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่าให้พรรครวมไทยสร้างชาติไปจัดการปัญหาของตัวเองก่อน นายวิทยา กล่าวว่า ในพรรคจะยังยืนยันตามนี้ ไม่มีการปรับ ทั้งในส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีของ เลขาธิการพรรค รวมถึงนายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค
เมื่อถามว่า หากไม่มีการปรับแต่ในพรรคแบ่งเป็นสองกลุ่ม จะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า แล้วจะไปยังไงได้ ในเมื่อร่วมหัวจมท้ายแล้ว ก็รอเวลา ยุบสภาค่อยจากกันไป เป็นเรื่องธรรมดา ปัญหาที่เกิดในพรรคเป็นเรื่องธรรมดา หัวหน้ากับเลขาธิการพรรคต้องปวดหัวกันบ้าง ยอมรับแรงเสียดทานให้ได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่านายกฯ ยังไม่ได้ประสานมาว่าให้มีการปรับ และยังไม่มีการนัดหัวหน้าพรรค กินข้าวเพื่อพูดคุยถึงการปรับ ครม. แต่คนที่จะพูดคุยคือหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เราให้สิทธิ์ 2 คนนี้ในการตัดสินใจ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า จะมีคนนอกมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแทนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นายวิทยา กล่าวว่า ถ้าจะมาเป็นก็ต้องหาช่องให้ได้ ตนยังนึกไม่ออกว่าเขาจะมายังไง ตนคิดว่าเขาอยากมานั่งในตำแหน่งที่พรรคเรานั่งอยู่เท่านั้น ถ้าไม่ใช่ตำแหน่งนี้ก็ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า หากพรรคแกนนำต้องการให้พรรครวมไทยสร้างชาติสละโควต้าให้กับบุคคลภายนอก นายวิทยา กล่าวว่า ในการตั้งรัฐบาล เขาเชิญเราไป เราก็ส่งหัวหน้าและเลขาพรรคไปพูดคุย ได้ข้อสรุปอย่างไรก็ยุติ เวลาเขาจะเอาใครมาแทน ก็ต้องคุยกับหัวหน้าและเลขาพรรค แล้วใครล่ะที่เป็นคนยื่นหนังสือมาขอเป็นแทน หรือหากรัฐบาลตัดสินใจเอาคนอื่นมาเป็นแทน ก็เท่ากับเชิญเราออกจากรัฐบาลแล้ว ซึ่งเป็นการเมืองตื้นๆ อย่าไปคิดอะไรมาก
เมื่อถามว่า ในแง่กฎหมาย มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่านายกรัฐมนตรีสามารถเปลี่ยนแปลงรายชื่อรัฐมนตรีด้วยตัวเอง ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ นายวิทยา กล่าวว่า เป็นไปได้ แต่ก็เท่ากับเขาให้เราออก เป็นการแสดงว่าไม่ต้องการพรรคเราแล้ว ถ้าจะเอาคนอื่นเราก็ต้องออก จะนั่งไปทำไม
เมื่อถามว่า ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ระบุเช่นเดียวกันว่า หากเปลี่ยนกระทรวง ก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน นายวิทยา กล่าวว่า ก็ต้องเป็นอย่างนั้น แต่ตนคิดว่านายกฯ คงไม่เปลี่ยนม้ากลางศึก ตอนนี้ประเทศกำลังออกศึกกับความยากจนและกัมพูชาอยู่ ถ้าเปลี่ยนแบบนี้ ถามว่าอะไรจะเกิดขึ้น คิดได้แต่จะทำยังไง ซึ่งหากเราออก ก็ต้องเป็นฝ่ายค้านโดยปริยาย เพราะเขาไม่ให้อยู่จึงจำเป็น