รมว.กลาโหม เผยไทยยึดจุดยืนมั่น ไม่ตอบโต้ตามอารมณ์ ย้ำเจรจาบนหลักการ ยึดผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นสำคัญ – ชี้ยังไม่มีสัญญาณแถลงการณ์จาก “ฮุนเซน” แม้กัมพูชากดดันหนัก
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกัมพูชาขีดเส้นตาย 24 ชั่วโมงขู่ปิดด่านชายแดน ว่า ไทยยังคงยืนหยัดในจุดเดิมตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ยืนยันไว้ว่า “จะใช้กระบวนการทางการทูตและมาตรการที่เหมาะสม เพื่อปกป้องอธิปไตย ศักดิ์ศรี และผลประโยชน์ของประเทศอย่างเต็มที่”
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการปรับกำลังพลตามแนวชายแดน โดยเฉพาะบริเวณช่องบก เพื่อลดความตึงเครียด หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าที่อาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน พร้อมระบุว่า กองทัพไทยยังไม่เคยรุกล้ำอธิปไตยใด ๆ โดยใช้เพียงมาตรการที่หนึ่งและสอง คือ การปรับเวลาเปิด-ปิดด่านบางจุด จากเดิม 06.00–22.00 น. เหลือ 08.00–16.00 น. โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยว ส่วนการค้าชายแดนยังคงเดินหน้าอย่างจำกัด และยังไม่มีผลกระทบรุนแรงในพื้นที่
“เรายังยืนยันว่าประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะปิดด่าน แต่เป็นการควบคุมสถานการณ์ด้วยสติ ไม่ใช่ใช้อารมณ์หรือแรงกดดันจากโซเชียล” นายภูมิธรรมกล่าว พร้อมระบุว่า แม้สถานการณ์ชายแดนจะยังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่จำเป็นต้องบริหารด้วยความระมัดระวัง
นอกจากนี้ นายภูมิธรรมยังย้ำว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีคำแถลงอย่างเป็นทางการจากสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยข้อมูลส่วนใหญ่มาจากโซเชียลมีเดีย พร้อมเตือนว่า หากประเทศไทยตอบโต้ด้วยการปั่นกระแสกลับ ก็อาจนำไปสู่ความเสียหาย จึงขอยืนยันว่า รัฐบาลยึดมั่นในข้อเท็จจริงและการเจรจา ไม่ให้ “โลกออนไลน์” นำทิศทางของรัฐ
ในประเด็นที่กัมพูชานำรถบัสมารับแรงงานกลับประเทศ นายภูมิธรรมระบุว่า ส่วนใหญ่แรงงานยังคงอยู่ในไทยตามปกติ เพราะต้องทำงานและยังไม่มีเหตุจำเป็นให้เดินทางกลับ
เมื่อถามถึงการจัดตั้ง “ทีมไทยแลนด์” โดยมอบหมายให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เป็นผู้ประสานงานข่าวสารและความมั่นคง นายภูมิธรรมกล่าวว่า พล.อ.ณัฐพล เป็นนายทหารอาวุโสที่มีความเชี่ยวชาญ เข้าใจงานละเอียด และสามารถเชื่อมโยงกับผู้บัญชาการกองทัพภาคต่าง ๆ ได้อย่างดี พร้อมย้ำว่า ไม่ใช่การทำงานเพียงคนเดียว แต่เป็นการบูรณาการร่วมระหว่างหลายกระทรวง โดยมีการจัดตั้งศูนย์กลางประสานงานร่วมเพื่อความเป็นเอกภาพในการสื่อสาร
สุดท้าย นายภูมิธรรมย้ำว่า รัฐบาลไทยไม่ได้มองกัมพูชาเป็นศัตรู แต่จะยึดมั่นในอธิปไตย ควบคู่กับการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างมีศักดิ์ศรี
