วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 19, 2025
หน้าแรกEXCLUSIVE“กัมพูชา”เหี้ยม!ลบเหลี่ยม“แพทองธาร” แฉคลิปผลักไสทหารไปอยู่“ฝั่งตรงข้าม”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“กัมพูชา”เหี้ยม!ลบเหลี่ยม“แพทองธาร” แฉคลิปผลักไสทหารไปอยู่“ฝั่งตรงข้าม”

ต้องเรียกว่าอาการ “ตรีทูต” สำหรับผู้นำประเทศยุคใหม่ อย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” ที่โทรศัพท์ต่อสายตรง “ฮุนเซน” ผู้นำตัวจริงของกัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาชายแดน ที่ร้อนระอุในขณะนี้

บทสนทนาบางช่วงบางตอน ถอดความออกมาแล้ว ทำให้ผู้ฟัง ไม่เข้าใจถึงเจตนา วัตถุประสงค์ ที่ผู้นำประเทศไทย อ่อนน้อมถ่อมตน พินอบพิเทา กับผู้ที่จ้องจะรุกรานประเทศ

แล้วยังผลักไสไล่ส่ง “ทหาร” ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลชายแดนไทย-กัมพูชา ไปเป็นฝั่งตรงข้าม ย้ำว่าพวกนี้ อยากจะ “ทำเท่” ไม่ได้ส่งผลดี ในการแก้ไขปัญหาชายแดนเลยแม้แต่น้อย

ลองดูบางช่วงบางตอนของบทสนทนา ที่ฝ่ายเขมร “ลบเหลี่ยม” หลานสาว เพื่อนรักได้ลงคอ

“ไม่อยากให้ๆ ทางพ่อ ไปฟังคนที่เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา เพราะว่าอังเคิลไปฟังฝั่งตรงข้าม

อย่างพวกแม่ทัพภาค 2 อย่างนี้ค่ะ เป็นคนของฝั่งตรงข้ามหมดเลย ซึ่งพอไปฟังอย่างนั้นเสร็จ

ก็ไม่อยากให้ท่านรู้สึกไม่ชอบใจ หรือโกรธ เพราะจริงๆ แล้ว ไม่ใช่ความตั้งใจของเราเลยค่ะ”

“เพราะตอนเนี้ย ทางนั้นน่ะ เค้าอยากจะดูเท่ เค้าก็จะพูดอะไรออกมาไม่ค่อยเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติค่ะ

แต่ว่าจริงๆ ที่เราต้องการ คือ ต้องการความสงบสุขให้เกิดขึ้น เหมือนตอนก่อนที่จะปะทะกันตรงชายแดนค่ะ”

“บอกว่าให้ท่านฮุนเซนน่ะ เห็นใจหลานหน่อย เพราะว่าตอนนี้น่ะ คนในประเทศไทย เค้าไล่เราไปเป็นนายกฯ ที่เขมรหมดแล้ว (หัวเราะ)”

“บอกว่า จริงๆ แล้วถ้าท่านอยากได้อะไร ให้ท่านบอกมาว่าอยากได้อะไร บอกมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะดู จัดการให้”

คลิปนี้ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยืนยันว่าการสนทนาดังกล่าวเกิดขึ้นจริงเมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 มิถุนายน 2568 และกินเวลา 17 นาที 6 วินาที

เขาชี้แจงว่ามีการบันทึกเสียงไว้ตามธรรมเนียมปฏิบัติ เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดหรือการบิดเบือนในเรื่องราชการ และเพื่อใช้เป็นข้อมูลภายในของกัมพูชา

หลังจากนั้น เขาได้แบ่งปันบันทึกเสียงนี้ให้แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องประมาณ 80 คน ซึ่งอาจมีบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีไทย จึงปล่อยคลิปออกมา

อย่างไรก็ตาม คลิปที่หลุดสู่สาธารณะมีความยาวเพียงประมาณ 9 นาทีเท่านั้น

ในวันนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ออกมายอมรับว่าคลิปเสียงที่หลุดเป็นเสียงของเธอจริง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการสนทนาส่วนตัว ที่ต้องการสื่อสารเพื่อยุติความขัดแย้งและนำมาซึ่งความสงบสุข

นอกจากนี้ เธอปฏิเสธว่าไม่ได้ทะเลาะกับกองทัพภาคที่ 2 แต่เป็นการพยายามสร้างความเข้าใจเพื่อเปิดด่านชายแดนร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม เธอยืนยันว่าจะไม่มีการพูดคุยส่วนตัวกับสมเด็จฮุน เซน อีกต่อไป เนื่องจากปัญหาเรื่องความไว้ใจ

ด้านสมเด็จฮุน เซน หลังจากที่มีคลิปหลุด เขาได้กล่าวหาผู้นำไทยว่าดำเนินการทางการเมืองอย่าง “ไม่เป็นมืออาชีพ” และเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ขัดแย้งกับสิ่งที่พูดคุยกัน และพร้อมจะเปิดเผยคลิปเสียงฉบับเต็มหากฝ่ายไทยต้องการ

ทั้งนี้ กัมพูชายังคงเดินหน้าแผนการยื่นเรื่องข้อพิพาท 4 พื้นที่ชายแดน ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาเมือนโต๊ด, ปราสาทตาควาย และพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)

ส่วนท่าทีประเทศไทยยังคงยืนยันว่าจะไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกในประเด็นนี้ และเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหาผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่แล้ว เช่น คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC)

หากวิเคราะห์สถานการณ์ความตึงเครียดนี้ สะท้อนถึงการใช้กลยุทธ์ “การเมืองแบบเบี่ยงเบนความสนใจ” (Diversionary Politics) ที่ทั้งสองประเทศนำประเด็นต่างประเทศมาบดบังปัญหาภายใน

สำหรับไทย รัฐบาลเผชิญแรงกดดันด้านเศรษฐกิจโครงสร้าง ปัญหาหนี้ครัวเรือน และความเหลื่อมล้ำ รวมถึงแรงกดดันทางการเมืองจากภายใน

ส่วนกัมพูชาต้องการสร้างความชอบธรรมให้ผู้นำรุ่นใหม่ และเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาคอร์รัปชัน ความเหลื่อมล้ำ และความไม่พอใจของประชาชนเรื่องการสูญเสียดินแดนให้เวียดนาม

แม้ในระยะสั้น การปิดด่านชายแดนและการจำกัดการเดินทาง จะยังไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการค้าทั้งหมด แต่หากความขัดแย้งยืดเยื้อหรือมีการปิดด่านถาวร จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจรายย่อย การลงทุน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทย ซึ่งกระทบต่อภาคการก่อสร้าง เกษตร และบริการของไทยด้วย นักวิชาการมองว่ากัมพูชามีการวางแผนที่ซับซ้อนกว่าไทยในประเด็นนี้

ท้ายที่สุดแล้ว เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เพียงแค่ปัญหาความมั่นคง แต่เป็นกรณีศึกษาที่สำคัญของการใช้การเมืองต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ภายใน

สถานการณ์นี้ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะคลิปเสียงหลุดที่ออกมานั้น สะท้อนภาวะผู้นำประเทศบางคน ได้เป็นอย่างดี และบางที อาจจะหมายถึงอายุ “รัฐบาลผสม” ที่จะสั้นลงตามไปด้วยนั่นเอง.

…………..

รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม

- Advertisment -spot_imgspot_img
- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img