“คารม” เก็บของออกจากทำเนียบฯ อย่างสงบ เผยเป็นเกียรติสูงสุดตลอด 1 ปี 7 เดือนที่ได้ทำงานใกล้นายกฯ แพทองธาร ยอมรับห่วงสถานการณ์บ้านเมืองจากคลิปเสียงสะเทือนความมั่นคง ชี้การเมืองไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าศักดิ์ศรีของประเทศชาติ พร้อมให้กำลังใจรัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาเพื่อประชาชน
เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 20 มิ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ได้เก็บของออกจากทำเนียบรัฐบาลเรียบร้อยแล้วในวันนี้ โดยระบุว่าไม่ได้ถือฤกษ์ใดเป็นพิเศษ แต่เป็นวันที่สะดวก เพราะตรงกับวันศุกร์ อีกทั้งได้ยื่นหนังสือลาออกอย่างถูกต้องตามขั้นตอนตั้งแต่เมื่อวาน (19 มิ.ย.) หลังจากพรรคภูมิใจไทยตัดสินใจถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล.
นายคารม กล่าวว่า แม้ตำแหน่งรองโฆษกจะได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แต่ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ตนขอลาออกตามมารยาททางการเมือง ซึ่งได้แจ้งหัวหน้าพรรคเรียบร้อยแล้ว พร้อมกล่าวถึงช่วงเวลาการทำงาน 1 ปี 7 เดือนกว่า ว่าเป็นช่วงเวลาที่มีเกียรติยศสูงสุด และรู้สึกซาบซึ้งกับความร่วมมือของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน
“ข้าราชการที่นี่เก่งและมีความสามารถ การเมืองจะเดินหน้าได้ต้องมีทั้งผู้นำที่เข้มแข็งและระบบราชการที่เชี่ยวชาญ” นายคารมกล่าว พร้อมระบุว่าเห็นด้วยกับการถอนตัวของพรรคฯ เพราะเชื่อว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือศักดิ์ศรีของประเทศชาติ ไม่ใช่อำนาจทางการเมือง
ในฐานะอดีต ส.ส. และรองโฆษกฯ นายคารมยอมรับว่าตนไม่มีพื้นฐานด้านการสื่อสาร แต่พยายามเต็มที่ และรู้สึกผูกพันกับสื่อมวลชนที่เปรียบเสมือนครู พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคนที่เคยให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา
ในช่วงหนึ่ง นายคารมยังกล่าวถึงความรู้สึกส่วนตัวหลังได้ยินคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าเป็นเรื่องอ่อนไหวและตีความได้หลากหลาย หากมองในฐานะนักกฎหมายยังไม่อาจฟันธงได้ว่าเข้าข่ายความผิดด้านความมั่นคงหรือไม่
“นายกฯ เป็นคนเฟรนด์ลี่ น่ารัก ผมเคยร่วมงานก็รู้สึกดี แต่คำพูดบางอย่างจะเป็นเทคนิคหรือมีนัยอะไร คงต้องให้ผู้รู้วิเคราะห์” นายคารมกล่าว พร้อมทิ้งท้ายว่า เหตุการณ์นี้สะท้อนปัญหาความเชื่อมั่นที่ซ้อนทับกับวิกฤตปากท้อง จนอาจกระทบต่ออารมณ์สังคม
“ผมห่วงบ้านเมืองมาก ขอให้กำลังใจรัฐบาลในการแก้ปัญหา ขอขอบคุณผู้สื่อข่าวทุกคน ถ้าวาสนามี คงได้พบกันอีก” นายคารมกล่าว พร้อมไหว้ลาศาลพระภูมิประจำทำเนียบ ก่อนเดินทางออกจากพื้นที่ด้วยความสงบ
สำหรับทิศทางต่อไปของพรรคภูมิใจไทย นายคารมระบุว่า ยังไม่มีการประชุมพรรคอย่างเป็นทางการ โดยทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหัวหน้าพรรค
