หุ้นไทยปิดลบ 1.10 จุด แรงกดดันจากปัจจัยการเมือง โดยแนวโน้มสัปดาห์หน้า แนะติดตามความเคลื่อนไหวของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด-ความขัดแย้งในตะวันออกกลางให้แนวรับ 1,055 จุด และแนวต้าน 1,080 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,067.63 จุด ลดลง 1.10 จุด -0.10% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 49,577.05 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ไหลลงมาในภาคบ่ายหลังจากรีบาวด์ได้ในช่วงเปิดตลาดภาคเช้า แม้ว่า SET จะปิดตลาดไม่แตกต่างกับตลาดอื่นในภูมิภาคมาก แต่มีปัจจัยเฉพาะที่แตกต่างออกไป โดยเฉพาะสถานการณ์การเมืองในประเทศที่มีความไม่แน่นอนยังคงกดดัน ทำให้มีแรงขายก่อนเข้าวันหยุด เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหรือไม่
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์หน้า แนะติดตามความเคลื่อนไหวของรัฐบาลอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะเป็นปัจจัยที่มีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทยสูงในระยะนี้ พรรคร่วมรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลจะมีทางออกต่อสถานการณ์ที่กดดันนี้อย่างไร รวมถึงติดตามผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) สัปดาห์หน้าด้วยเช่นกัน
ส่วนปัจจัยภายนอกให้ติดตามความขัดแย้งในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน โดยเฉพาะท่าทีของสหรัฐฯ ที่เริ่มมีสัญญาณว่าอาจส่งกองทัพไปเข้าร่วมสงครามโดยตรง พร้อมให้แนวรับ 1,055 จุด และแนวต้าน 1,080 จุด
ขณะที่ บล.ยูโอบี เคย์เฮีน (ประเทศไทย) ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงอยู่ในช่วงขาลง แม้จะมีการฟื้นตัวเล็กน้อยในช่วงเช้าจากความคืบหน้าทางการเมืองที่รัฐบาลเดินหน้าต่อได้ แต่สถานการณ์โดยรวมยังคงมีความไม่แน่นอนสูง ตลาดเผชิญกับแรงเทขายหนักในช่วงเย็น และการ rebalance ของดัชนี FTSE ในขณะที่กลุ่มหุ้นธนาคารทรงตัวได้เล็กน้อยจากความคืบหน้าเรื่อง Virtual Bank ทั้งนี้ การลงทุนในระยะกลางยังคงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
สัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง -55.07 จุด (-4.91% wow) แรงซื้อมาจากกลุ่มธนาคาร (1.04) อสังหาริมทรัพย์ (0.71) และปิโตรเคมี (0.28) แรงขายมาจากกลุ่มพลังงาน (-0.90), สื่อสาร (-0.89) และพาณิชย์ (-0.71)