ปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชากระทบท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวลดลง 43% จากปกตินักท่องเที่ยวเฉลี่ยรายวันอยู่ที่ 1,200 คนต่อวัน ททท.เกาะติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ทุกสัปดาห์
แหล่งข่าวจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)แจ้งว่า ผลกระทบด้านการท่องเที่ยวจากปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาพบว่า ได้รับผลกระทบ โดยเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยรายวันลดลง 43% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนการปิดด่าน จากปกติที่นักท่องเที่ยวเฉลี่ยรายวันอยู่ที่ 1,200 คนต่อวัน โดยตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวสะสม 197,658 คน ลดลง 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 228,982 คน ขณะที่ปี 2567 มีนักท่องเที่ยวกัมพูชาเข้าไทย จำนวน 553,060 คน ลดลง 5% เทียบจากปี 2566 ที่มีนักท่องเที่ยวเฉลี่ยต่อวัน อยู่ที่ 1,500 คนต่อวัน
แหล่งท่องเที่ยวในประเทศ เช่น โบราณสถานภูปราสาท อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ได้รับผลกระทบเล็กน้อย เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของป่าบนเทือกเขาพนมดงรักรอยต่อชายแดนไทย-กัมพูชา ใกล้ด่านช่องอานม้า อ.น้ำยืน ส่งผลให้นักท่องเที่ยววิตกกังวลในความปลอดภัยและชะลอการเดินทาง ส่วนจ.สระแก้ว โรงแรมที่พักในอ.อรัญประเทศได้รับผลกระทบจากอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OR) ลดลงเล็กน้อย
สำหรับมาตรการความปลอดภัย จากการสอบถามจากสำนักงาน ททท.ในพื้นที่ซึ่งดูและพื้นที่อุบลราชธานี สุรินทร์ สระแก้ว และตราด พบว่า ไม่มีรายงานว่ามีมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากปัจจุบันมีมาตรการคุมเข้มสำหรับผู้ที่ต้องการผ่านแดนอยู่แล้ว แม้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวไทยที่เดินทางไปยังอุบลราชธานี อาจมีความกังวลอยู่บ้าง เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับบริเวณที่มีการเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่ผ่านมาความรู้สึกดังกล่าวได้ผ่อนคลายลง ส่วนจังหวัดอื่น อาทิ สุรินทร์ นักท่องเที่ยวไม่ได้มีความกังวล เนื่องจากเคยชินกับสถานการณ์ดังกล่าวพอสมควรแล้ว
อย่างไรก็ตาม ททท.ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ทุกสัปดาห์ รวมถึงหากมีประเด็นใหม่เกิดขึ้น โดยติดตามจากทั้งสำนักงาน ททท.ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและสำนักงานโฮจิมินท์ รวมทั้งติดตามและเฝ้าระวังข่าวสารจากช่องทางอื่นๆ ที่ขยายผลจากสถานการณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศไทยและความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยที่อาจจะส่งผลต่อการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวในอนาคต