“เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” ยอมรับสถานการณ์การเมืองร้อนแรงเป็นช่วงที่ยากที่สุดในชีวิต ยืนยันไม่เคยยึดติดเก้าอี้รัฐมนตรี พร้อมเปรียบตนเป็น “กัปตันเรือกลางพายุ” ที่ไม่อาจทิ้งเรือ ย้ำภารกิจสำคัญคือพาประเทศพ้นวิกฤต พร้อมเดินหน้าทำงานด้วยความรับผิดชอบแม้จะไม่มั่นใจว่าฐานสนับสนุนจะกลับมาได้หรือไม่
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ภายในพรรคและผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยยอมรับว่า เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในเส้นทางการเมืองของตนเอง ทั้งศึกภายนอกและความเห็นต่างภายในพรรค
“ตอนนี้เรากำลังเจอทั้งศึกนอกศึกใน ต้องรับฟังกันทุกด้าน ผมพยายามพูดคุยกับ สส. และหัวหน้าพรรคอยู่ตลอด การตัดสินใจในตอนนี้ไม่ง่ายเลย แต่เราต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุด” นายเอกนัฏ กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า พรรครวมไทยสร้างชาติอาจเสนอให้นายกรัฐมนตรีลาออก หากไม่เช่นนั้นจะถอนตัวจากรัฐบาล นายเอกนัฏ ระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนความรู้สึกจากผู้สนับสนุนพรรคที่ต้องการเห็นพรรคแสดงจุดยืนและความรับผิดชอบ แต่สถานการณ์ในขณะนี้ก็เปราะบาง โดยเฉพาะปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเขามองว่าเป็นเรื่องที่ต้องสนับสนุนการทำงานของกองทัพอย่างเต็มที่
“สิ่งที่เราอยากทำกับสิ่งที่ต้องทำมันไม่ง่ายเลย ต้องปล่อยให้ผ่านสถานการณ์นี้ไปก่อน” เลขาธิการพรรค รทสช. กล่าว พร้อมย้ำว่า ในฐานะผู้นำพรรค ตนไม่สามารถทิ้งหน้าที่ได้เหมือนคนที่ไม่อยู่ในตำแหน่ง เหมือนเป็น “กัปตันเรือที่ล่องผ่านมรสุม” ซึ่งไม่อาจทิ้งเรือได้ เพราะชีวิตคนทั้งลำ ต้องรับผิดชอบ
เมื่อถามถึงกระแสกดดันจากผู้สนับสนุนที่อาจ “โบกมือลา” พรรค รทสช. นายเอกนัฏ ตอบว่า “เราต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจ ผมเข้าใจทุกคน และผมก็ไม่อยากหลบ ไม่ปิด อยากพูดตรงๆ”
เมื่อถามว่า พรรค รทสช.จะยังอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไปหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังไม่มีอะไรแน่นอน เพราะยังต้องรอผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในสัปดาห์หน้าเกี่ยวกับสถานะของนายกรัฐมนตรี “ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ส่วนวันพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
เมื่อถามว่า ทำไมไม่ลาออกจากตำแหน่งแล้วไปทำในสิ่งที่อยากทำ นายเอกนัฏ ย้อนถามว่า “แล้วประเทศจะได้อะไร” หากไม่มีรัฐบาลในตอนนี้ ประเทศจะไม่มีเครื่องมือในการแก้ปัญหา
ด้านความสัมพันธ์กับแกนนำพรรคที่มีจุดยืนแตกต่างกัน เช่น นายวิทยา แก้วภราดัย และนายจุติ ไกรฤกษ์ ซึ่งมีท่าทีถอนตัวหากนายกฯไม่ลาออกนั้น นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้โดยตรง แต่ได้พบกับนายจุติเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ในประเด็นเรื่องการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีในโควตาพรรค รทสช. นายเอกนัฏ ระบุว่า “ไม่มีอยู่ในหัวเลย” ยืนยันไม่เคยคิดยึดติดตำแหน่งและหากใครต้องการเก้าอี้ก็ยินดีให้
“ผมอายุยังน้อย ถ้ามีโอกาสก็อยากทำงานการเมืองต่อไปในหลักการที่ถูกต้อง แต่วันนี้อำนาจหน้าที่อยู่ตรงนี้ ก็จะทำให้ดีที่สุด” นายเอกนัฏ กล่าว
เมื่อถูกถามว่า ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเรื่องการปรับตำแหน่งหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวย้ำว่า “ยังไม่ได้คุยเลย และพูดจริงๆ ว่าไม่เอา ไม่ขอเพิ่มอะไรทั้งนั้น ถ้าอยู่ก็อยู่ทำงานต่อไป”