“Bio-Brick Shelter” ผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่พักอาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างสรรค์จาก “อิฐชีวภาพ (Bio-bricks)” ซึ่งผลิตจากกากกาแฟและวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร
ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดตาก ร่วมเปิดตัว “Bio-Brick Shelter” ผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่พักอาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างสรรค์จาก “อิฐชีวภาพ (Bio-bricks)” ซึ่งผลิตจากกากกาแฟและวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร โดยใช้เส้นใยเห็ดเป็นกาวธรรมชาติ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรในพื้นที่ พร้อมสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากในระดับชุมชน เพิ่มพื้นที่สีเขียวและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ผ่านการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ดร.นัฐวุฒิ บุญยืน หัวหน้าทีมวิจัยปฏิสัมพันธ์ของจุลินทรีย์ทางการเกษตร ไบโอเทค สวทช. เปิดเผยว่า โครงการ “การยกระดับผลิตภัณฑ์จากวัสดุทางการเกษตร: อิฐจากเศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรและกากกาแฟ (Bio-bricks)” เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญภายใต้ชุดโครงการ “การอนุรักษ์ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนในพื้นที่เหมืองผาแดง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดตาก” โดยมีเป้าหมายหลักในการนำเศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรจำนวนมหาศาลที่มักถูกเผาทิ้ง เช่น กากกาแฟ (กว่า 290,000 ตัน/ปีในประเทศไทย) ชานอ้อย และก้อนเห็ดเก่า ซึ่งการเผาทิ้งเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหา PM2.5 และก๊าซเรือนกระจก มาแปรรูปเป็นอิฐมวลเบาที่มีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่น และช่วยลดต้นทุนการผลิต

“การศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่า การผสมผสานกากกาแฟกับเส้นใยเห็ดรา สามารถสร้างวัสดุอิฐมวลเบาที่มีคุณสมบัติโดดเด่นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่ง Bio-Brick Shelter ขนาดเล็กที่เราพัฒนาขึ้นนี้ เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ป่าและชุมชน ช่วยส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน และเรามีความพร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้นี้สู่ชุมชน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน”

นายอิทธิพล พรหมฝาย นักออกแบบจากบริษัทเมิร์จ จำกัด และผู้ประสานงานเครือข่ายเพื่อนสวนพฤกษ์ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กล่าวเสริมว่า การออกแบบ Bio-Brick Shelter ได้คำนึงถึงความยั่งยืน และนำจุดเด่นของวัสดุไมซีเลียม (mycelium) ที่สามารถย่อยสลายได้ มาผนวกกับการสร้างพื้นที่สีเขียวร่วมกับ Tech Seed Ball (เมล็ดพืชห่อหุ้มด้วยวัสดุชีวภาพ) และกิจกรรมสร้างสรรค์เชิงวัฒนธรรม เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในจังหวัดตาก ซึ่งมีต้นทุนทางธรรมชาติที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว

ด้าน นายคมน์ เครืออยู่ นักวิชาการป่าไม้ สำนักโครงการพระราชดำริและกิจการพิเศษ กรมป่าไม้ ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ที่พื้นที่เหมืองผาแดงจะได้รับว่า Bio-brick Shelter จะช่วยลดปริมาณเศษวัสดุทางการเกษตร ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหา PM2.5 นอกจากนี้ยังสร้างทางเลือกรายได้ใหม่ด้านการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบให้กับกลุ่มสร้างป่าสร้างรายได้และเยาวชนรักษ์พงไพร ซึ่งเป็นเครือข่ายหลักในพื้นที่ ทางกรมป่าไม้จะขยายผลแนวคิดและกิจกรรมนี้ไปสู่เครือข่ายทั่วทั้งจังหวัดตาก เพื่อร่วมกันดูแลผืนป่ากว่า 8 ล้านไร่ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ป่าขนาดใหญ่อันดับสองของประเทศ

โครงการนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นนวัตกรรมด้านวัสดุก่อสร้าง แต่ยังเป็นต้นแบบของการพัฒนาที่ยั่งยืน ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับชุมชนในการสร้างรายได้และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม