วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightชวนทำความรู้จัก“โรคไฟลามทุ่ง”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ชวนทำความรู้จัก“โรคไฟลามทุ่ง”

”โรคไฟลามทุ่ง’’ผิวหนังที่ติดเชื้อแบคทีเรีย และมีดูแลให้ห่างไกลจากโรคนี้กันได้อย่างไร

รศ. พญ. จรัสศรี ฬียาพรรณ ภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่า  โรคไฟลามทุ่ง เป็นโรคที่ผิวหนังมีการติดเชื้อแบคทีเรีย ผู้ป่วยจะมาด้วยอาการปวด บวม แดง ร้อนที่ผิวหนังและมีอาการอักเสบร่วมด้วย

ถ้าติดเชื้อที่ผิวหนังชั้นตื้นก็จะเห็นผื่นแดงมีขอบชัดเจน แต่หากการติดเชื้อลึกลงไปในที่ชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ก็จะทำให้ผื่นแดงมีขอบที่ไม่ชัดเจน ถ้าการติดเชื้อลามไปที่กล้ามเนื้อจะเรียกว่า โรคแบคทีเรียกินเนื้อ ซึ่งจะเริ่มเห็นเนื้อตาย ที่มีลักษณะเป็นผื่นสีดำคล้ำ อาจมีตุ่มน้ำร่วมด้วย ภาวะไฟลามทุ่งและโรคแบคทีเรียกินเนื้อเป็นโรคที่อันตราย อาจแพร่กระจายสู่กระแสเลือด ควรให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษา

สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไฟลามทุ่ง แบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ  ได้แก่

1. ผู้ที่มีแผลที่เท้า  ซึ่งอาจจะเกิดจากการใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม หรือการติดเชื้อราบริเวณง่ามเท้า ซึ่งทำให้เนื้อที่ง่ามเท้าเปื่อยแล้วทำให้เกิดแผลซึ่งเป็นทางเข้าของเชื้อแบคทีเรียไฟลามทุ่ง

2. ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ  ได้แก่ ผู้ป่วยสูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวานที่คุมน้ำตาลไม่ดี หรือผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ซึ่งมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อจึงต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ดังนั้น ผู้ป่วยทั้งสองกลุ่มนี้ จึงมีความเสี่ยงในการที่จะเกิดโรคไฟลามทุ่งได้

ส่วนวิธีป้องกันโรคไฟลามทุ่งนั้น  รศ. พญ. จรัสศรี แนะนำว่า การป้องกันโรคที่สำคัญ คือ การดูแลไม่ให้เกิดแผลที่เท้า อย่าให้เท้าอับชื้น เพื่อป้องกันการเกิดเป็นเชื้อรารวมทั้งการเลือกรองเท้าที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าในบริเวณที่อาจจะทำให้เกิดแผลได้ รวมถึงการควบคุมเบาหวานให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ ก็จะทำให้ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค เพราะสุขอนามัยดี สุขภาพดี ป้องกันได้ด้วยตนเอง

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img