ช่วงนี้สังคมสงฆ์ดูอาจจะ “ครึกครื้น” อยู่พอสมควร หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าพระราชทาน “สัญญาบัตรพัดยศ” แด่พระสงฆ์มาอย่างต่อเนื่อง
บางรูปทำนามบัตรแทบ “ไม่ทัน” เอาเลยเสียทีเดียว
มีเพื่อนบางรูปบ่นว่า คราวที่แล้วได้รับโปรดเกล้าลงมา ตั้งใจไว้ว่าจะไปมุทิตาก่อนเข้าพรรษานี้ นี้โปรดเกล้าลงมาอีกแล้ว.
“เปรียญสิบ”ถือว่าเรื่องนี้แล้วแต่บุญพาวาสนาส่งของแต่ละท่านแต่ละรูปมนุษย์เราบุญบารมีไม่เหมือนกัน
สมณศักดิ์ เป็นเรื่องของ..พระราชอำนาจ
สมณศักดิ์ เป็นกลไกอันหนึ่งที่เชื่อมโยงระหว่างสถาบันสงฆ์และสถาบันกษัตริย์
ของแบบนี้ มันจำเป็นต้องมีในสังคมไทย
แม้หลายคนอาจจะมองว่า “สมณศักดิ์” ไม่จำเป็นต้องมี..เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการประพฤติตนเพื่อความหลุดพ้นตามเจตจำนงค์ของเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา
แต่เรื่องแบบนี้ถือว่าเป็น “ขวัญและกำลังใจ” ในการขับเคลื่อนพระพุทธศาสนาที่ดียิ่งอย่างหนึ่ง สำหรับสังคมสงฆ์
หวังว่าไม่นานหลังจากนี้คง “ปลดล็อค” สมณศักดิ์ระดับพระสังฆาธิการ,เจ้าอธิการ เจ้าคณะผู้ปกครองระดับตำบล อำเภอ จังหวัด บ้าง
แต่ออกตัวก่อนว่า..เรื่องนี้เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ
ส่วนพระสงฆ์เรา..ที่ได้ไปก็อย่าหลงระเริงจนเกินควรไป..อย่าฉลองเสียจนใหญ่โตเกินความเป็นเพศและสมณศักดิ์
เพราะมีข่าวลือว่า เมื่อ เร็ว ๆ นี้มีพระมหาเถระรูปหนึ่งจัดงานฉลองอดีตเจ้าอาวาส พร้อมกับฉลองสมณศักดิ์เสียเงินนับสิบล้านบาท
หรือรวมทั้งปล่อยให้ “โยมอุปถัมภ์” ที่ไปซ่อมกุฎิ มีคนส่งข้อมูลมาว่า คุณนายไรไม่รู้ จำชื่อไม่ได้ ดุมาก ตอนนี้จัดแจงซ่อมแซมกุฎิ. ด่า ดุ อาวะวาดไปทั่ว คุณนายทรงผมกะบังลม เขาอยากให้…..อยู่แบบไฮโซ ๆ หรู ๆ
เรื่องแบบนี้ “ไม่สมควร” ท่ามกลางประชาชนทุกข์ยากอยู่ ณ ทุกวันนี้
เรื่องนี้ “มิบังควร” เพราะการโปรดกล้าสมณศักดิ์จาก “ในหลวง” แปลว่า พระภิกษุรูปนั้นต้องมีดี
“เปรียญสิบ” ไม่อยากหลุดประเด็นมากไปกว่านี้..ท่ามกลางสังคมที่ทุกคนต้องการกำลังใจ
เพียงแต่ขอเตือนว่า พระพุทธเจ้าตรัสว่า สตรีเป็นมลทินแห่งพรหมจรรย์ ต้องมีเส้นแบ่ง ระยะห่าง ระหว่างความเป็นพระภิกษุและสตรีที่จะเข้ามาดูแลอุปถัมภ์ ไม่อย่างนั้น “พังทุกราย”
ไม่เว้นว่าวัดนั้นจะเป็นวัดพระอารามหลวงชั้นเอกอุ หรือ วัดที่อยู่ห่างไกลปืนเที่ยง ไม่เว้นพระรูปนั้น..จะเป็นพระสมเด็จหรือเป็นพระภิกษุธรรมดา!!
………………………
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย …“เปรียญสิบ” : [email protected]